ดร. ปิยภัสร ธาระวานิช หัวหน้าสาขาการเงิน วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจของประเทศไทยปัจจุบันนี้ คล้ายกับปรากฎการณ์ที่เรียกกันเล่นๆ ว่า “ต้มกบ” กล่าวคือ สถานการณ์ค่อยๆ แย่ลงต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่ลงแบบทันที ดังนั้น ถ้าไม่รู้ตัว ไม่รีบแก้ปัญหาไว้ก่อน ก็จะเหมือนกับกบที่ถูกต้ม ความร้อนค่อยๆ เพิ่ม กบก็จะไม่รู้สึกตัว ไม่กระโดดออกมา ผลสุดท้ายก็จะสุก ต่างกับกรณีที่สถานการณ์แย่ลงทันที เหมือนน้ำที่ถูกต้มไว้แล้ว กบก็จะรู้ตัว รีบกระโดดออกมา คือ รีบทำการแก้ไขปัญหา
สถานการณ์ตอนนี้ก็เช่นกันคือ เศรษฐกิจไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้าง อาทิ การเป็นสังคมผู้สูงอายุ (aged society) ทำให้ขาดแคลนแรงงาน การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มลดลงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อาการก็จะเพิ่มขึ้นทีละนิด เหมือนน้ำที่ร้อนขึ้นทีละนิด ถ้าไม่รีบกระโดดออกมาปรับตัว ธุรกิจก็จะประสบแต่ความยากลำบาก ดังนั้นธุรกิจควรถือโอกาสนี้รีบปรับตัว
ถ้าให้พิจารณาภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 คาดว่าจะดีขึ้น เนื่องจากประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น และเศรษฐกิจโลกฟื้น ซึ่งข้อนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเมื่อเศรษฐกิจโลกดีขึ้นย่อมดึงเศรษฐกิจไทยให้ขยับดีขึ้นด้วยผ่านทางธุรกิจการส่งออก
ทั้งนี้ การให้ความสำคัญเรื่องวางแผนบริหารจัดการเงินเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดในระยะยาว ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยปัจจัยภายนอกด้านเศรษฐกิจที่ควบคุมไม่ได้ จึงแนะให้สนใจปัจจัยภายในที่สามารถทำได้ก่อน ดังนี้