สจล. ผนึก ไซโก ประมูล “SEIKO Monster KMITL” เติมทุนสร้างโรงพยาบาล

17 พ.ย. 2564 | 01:46 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2564 | 10:05 น.

สจล. พร้อมด้วย ไซโก เปิดโฉมนาฬิกา “SEIKO Monster KMITL”พร้อมเปิดประมูลเบอร์สวยหลังหน้าปัด จำนวน 47 หมายเลข รายได้สมทบทุนสร้าง “โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” (KMCH) โรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจรแห่งแรกของไทย

ปัจุบันความไม่พร้อมของวัตกรรมทางการแพทย์ไทยส่งผลให้ในแต่ละปีวงการแพทย์และสาธารณสุขไทย  ต้องนำเข้านวัตกรรมการแพทย์สูงกว่าหมื่นล้านบาท และทำให้การกระจายอุปกรณ์ช่วยชีวิตเหล่านี้เข้าถึงโรงพยาบาลต่างจังหวัดได้ยาก เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ  จากข้อจำกัดดังกล่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

สจล. ผนึก ไซโก ประมูล “SEIKO Monster KMITL” เติมทุนสร้างโรงพยาบาล

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้พัฒนานวัตกรรมและอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกมาหลายรายการเพื่อในระบบสาธารณสุขไทยล่าสุด สจล. มีแผนจัดสร้าง“โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” (KMCH) โดยตั้งใจให้เป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจรแห่งแรกของไทย 

 

ซึ่งในการจัดสร้างครั้งนี้ สจล. ได้รับความช่วยเหลือจาก บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด (SEIKO Thailand) ในการผลิต “SEIKO Monster KMITL” นาฬิกาพรีเมียมสายสปอร์ตที่ผนวกรวมอัตลักษณ์ของสถาบัน ‘สีแคแสด’  จำนวน1000 เรือน มาพร้อมการสลักเลขไว้ด้านหลังตัวเรือน โดยมีเพียง 47 หมายเลขสวยเท่านั้น ที่เปิดให้แฟนไซโก มอนสเตอร์ (SEIKO Monster) ร่วมประมูลเพื่อเก็บสะสมเป็นคอลเลคชันพิเศษ โดยรายได้หลังหักใช้จ่ายสมทบทุนสร้าง KMCH

ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)

ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ พร้อมด้วย สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีความเข้มแข็งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ได้ขยายความร่วมมือกับ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด มาร่วมผลักดันการจัดสร้าง “โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” (KMCH) โรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจรแห่งแรกของไทย เพื่อสนับสนุนระบบสาธารณสุขและการแพทย์ไทย 

 

 

เนื่องจากมูลค่าการนำเข้านวัตกรรมทางการแพทย์จากต่างประเทศสูงกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี โดยจัดทำและผลิตนาฬิการุ่นพิเศษ “SEIKO Monster KMITL” จำนวนหนึ่งพันเรือน ที่มีอัตลักษณ์ของสถาบัน ‘สีแคแสด’ บนหน้าปัดนาฬิกา ส่วนตัวเรือนทยังคงความเป็น ไซโก มอนสเตอร์ (SEIKO Monster) 

 

 “เราตั้งใจที่จะสร้างโรงพยาบาลซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ไม่ธรรมดาแต่จะเป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคตที่คนไทยต้องการ นอกเหนือจากการจะมีหมอเก่งๆที่คอยให้การรักษาแล้วที่แตกต่างก็คือKMCHจะเป็นโรงพยาบาลที่นำเอาเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรม ด้านสถาปัตย์การออกแบบ วิทยาศาสตร์ และmaterial มาผนวกกับด้านการแพทย์เพื่อสร้างเครื่องมือแพทย์แห่งแรกของประเทศไทย โรงพยาบาลแห่งนี้จะมีลักษณะเฉพาะไม่ดูเหมือนโรงพยาบาลแต่เป็นประติมากรรม มีความเป็น artwork 

 

ส่วนนาฬิกาก็มีความเป็นศิลปะมีความเป็นวิศวกรรม และเป็นสิ่งที่ต้องตรงไปตรงมา โรงพยาบาลก็เช่นเดียวกันมีความเป็นศิลปะหมอก็ต้องมีใบประกอบโรคศิลป์ อาคารก็มีการนำสถาปัตย์เข้ามาเกี่ยวข้อง และใช้วิศวกรรมเข้ามาเพื่อสร้างเครื่องมือแพทย์เพราะฉะนั้นแล้วทั้งนาฬิกาและโรงพยาบาลก็มีส่วนที่เหมือนกัน”

 

นอกจากความร่วมมือกับไซโก (ประเทศไทย) แล้ว ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานภายใน เพื่อเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วม “ให้เพื่อสร้าง” โรงพยาบาลแห่งนี้ให้สำเร็จและขับเคลื่อนสุขภาพที่ดีขึ้นของคนไทยด้วยเทคโนโลยีโดยเร็ว ผ่านกิจกรรมที่เตรียมจัดขึ้นเร็วๆ นี้ อาทิ การประมูลพระบรมสาทิสลักษณ์ รัชกาลที่ 9 ผลงานของศิลปินชื่อดัง ดินหิน รักพงษ์อโศก ภายใต้การจัดงานของคณะวิทยาศาสตร์ สจล. และศิษย์เก่า ในพื้นที่ของสำนักข่าวไทย อสมท. (TNAMCOT) ถนนพระราม 9



 

ด้าน รศ. นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร (KMCH) กล่าวเสริมว่า คณะผู้บริหารโรงพยาบาล พร้อมด้วยมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ ตั้งเป้าให้โรงพยาบาลดังกล่าว มีความแตกต่างจากโรงพยาบาลแห่งอื่น ทั้งในด้านการให้บริการ การบริหารจัดการ และการพัฒนานวัตกรรม ด้วยการผสานจุดแข็งด้านวิชาการของสถาบัน ทั้งด้านวิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ฯลฯ มาพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่ใช้ได้จริง

 

ซึ่งที่ผ่านมาได้นำนวัตกรรมดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้สำเร็จ เพื่อแจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขที่มีความจำเป็นสูง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศจำนวนมาก อาทิ เครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow เครื่องช่วยหายใจแบบบีบมืออัตโนมัติ (KNIN II) และตู้ตรวจเชื้อ (Swab Test)  แบบความดันบวก (Positive Pressure) 

 

นอกจากนี้ โรงพยาบาลดังกล่าว ยังมีความพร้อมในการรักษาพยาบาลด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ร่วมด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และสอดรับกับ การรักษาโรคอุบัติใหม่ในอนาคต 

“SEIKO Monster KMITL”

“ปัญหาสาธารณสุขไทยมีปัญหาตลอดเวลา โดยเฉพาะในเรื่องของอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆจะเห็นได้ว่าทุกอย่างในโรงพยาบาลจะต้องนำเข้าทั้งหมดทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูง ฉะนั้นการที่เครื่องมือเหล่านี้จะลงไปถึงโรงพยาบาลต่างจังหวัดมีความเป็นไปได้ยาก   สจล.ของเรามีคณะวิศวกรรม สถาปัตย์ วิทยาศาสตร์ ต่างๆ ซึ่งเรามีทั้งความรู้และวัตถุดิบมากมายเพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถทำเครื่องมือแพทย์เองได้  อุปกรณ์ที่จะได้ก็จะมีราคาที่ต่ำลง ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราสามารถที่จะกระจายอุปกรณ์เหล่านี้ไปยังโรงพยาบาลต่างจังหวัดได้

 

ซึ่งปัจจุบันสจลของเราก็ได้ผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์หลายรายการกระจายไปทั่วประเทศ แถมยังส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมาร์และลาว อีกด้วย

 

ในส่วนของโรงพยาบาลKMCH จำนวน 60 เตียงตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี เฟสแรกจะสามารถเปิดบริการได้ช่วงต้นปี 2566 ในส่วนของโครงสร้างทั้งหมด ระบบสาธารณูปโภคและหน่วยกายภาพบางส่วนรวมไปถึง opd ส่วนห้องผู้ป่วยในและ opd ส่วนที่ 2 ห้องฉุกเฉิน รวมไปถึง research center คงต้องรอเฟส 2 ช่วงปลายปี 2566 ถึงจะสามารถเปิดบริการได้เต็มรูปแบบ โรงพยาบาลนี้จะไม่เป็นโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ แต่จะเป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมและ smart hospital เน้นเฉพาะเรื่องของผู้สูงวัยกับฟื้นฟูสุขภาพ เราต้องการให้เป็น  “โฮมเบสท์แคร์”  คือทุกคนสามารถดูแลสุขภาพตัวเองโดยเน้นไปในเรื่องของการรักษาทางไกลผ่าน platform ซึ่งเป็นconcept เดียวกับhome isolation ในปัจุบัน


สำหรับงบประมาณการก่อสร้าง สจล. ประเมิณไว้ที่ 1000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 800 ล้านบาทและอุปกรณ์เครื่องมือไอทีต่างๆ 200 ล้าน  โดยงบประมาณส่วนหนึ่งมาจากการผลิตและจำหน่ายนาฬิการุ่นพิเศษ “SEIKO Monster KMITL” จำนวน 1000 เรือน  1,000 หมายเลข คาดว่ารายได้หลังหักค่าใช้จ่ายหลังการจำหน่าย 953 เรือนจะสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลประมาณ 14-15 ล้านบาท แต่รายได้ที่จะได้มากที่สุดคือรายได้จากการประมูลเลขสวย 47 หมายเลข ว่าจะมีผู้บริจาคเลขมงคลสักเท่าไหร่ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด

 

ซึ่งจริงๆนาฬิการุ่นนี้เราไม่ได้เปิดขายทั่วไปแต่เราเปิดให้จองเมื่อต้นปีที่ผ่านมาและหมดภายใน 4 ชั่วโมง และคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบได้ภายในเดือนมีนาคมปีหน้าในราคาเรือนละ 23,500 บาท

นายฮิโรยูกิ อาคาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด (SEIKO Thailand)
ด้าน นายฮิโรยูกิ อาคาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด (SEIKO Thailand) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ไซโก มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวาระพิเศษครั้งนี้ เพื่อจัดสร้างโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เพราะตระหนักถึงความสำคัญและโอกาสทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย 

 

“สำหรับ seiko เองโดยปกติจะไม่ค่อยมีความร่วมมือในลักษณะนี้ เพราะความสามารถในการผลิตของ seiko ค่อนข้างจำกัด ซึ่งโดยปกติแล้วการที่จะมีโปรเจคพิเศษจะส่งผลกระทบต่อไลน์ผลิตปกติที่ถูกระบุไว้ตามไทม์ไลน์ต่างๆ แต่ด้วยโปรเจคนี้เราต้องยอมรับว่า seiko ต้องการสนับสนุนและคืนกำไรสู่คนไทยด้วย จึงผลักดันให้เกิดรุ่น limited นี้ขึ้น ด้วย project นี้ concept ค่อนข้างพิเศษเราจึงสามารถที่จะต่อรองกับทางญี่ปุ่นได้ เพราะคนไทยเองก็สนับสนุน seiko มากกว่า 30 ปี

 

สำหรับไซโก มอนสเตอร์ (SEIKO Monster) ที่นำมาทำ limited edition ครั้งนี้ถือว่าเป็นรุ่นเรือธงของ seiko ที่สร้างชื่อให้กับ seikoในเมืองไทยและมีฐานแฟนและการสะสมนาฬิการุ่นนี้ค่อนข้างเยอะ

 

สิ่งที่พิเศษสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ จะมีการสกรีนโลโก้ของสจล.ลงไปด้านหลังของนาฬิกา ในส่วนของหน้าปัดเป็นสีพิเศษซึ่งเป็นสีแคแสดสีประจำสจล. ซึ่งค่อนข้างยากและมีข้อจำกัดซึ่งทางนี้ก็สามารถทำออกมาได้ใกล้เคียงกับสีที่ทางสจล.ต้องการ”