ปัจุบันความไม่พร้อมของวัตกรรมทางการแพทย์ไทยส่งผลให้ในแต่ละปีวงการแพทย์และสาธารณสุขไทย ต้องนำเข้านวัตกรรมการแพทย์สูงกว่าหมื่นล้านบาท และทำให้การกระจายอุปกรณ์ช่วยชีวิตเหล่านี้เข้าถึงโรงพยาบาลต่างจังหวัดได้ยาก เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ จากข้อจำกัดดังกล่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้พัฒนานวัตกรรมและอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกมาหลายรายการเพื่อในระบบสาธารณสุขไทยล่าสุด สจล. มีแผนจัดสร้าง“โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” (KMCH) โดยตั้งใจให้เป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจรแห่งแรกของไทย
ซึ่งในการจัดสร้างครั้งนี้ สจล. ได้รับความช่วยเหลือจาก บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด (SEIKO Thailand) ในการผลิต “SEIKO Monster KMITL” นาฬิกาพรีเมียมสายสปอร์ตที่ผนวกรวมอัตลักษณ์ของสถาบัน ‘สีแคแสด’ จำนวน1000 เรือน มาพร้อมการสลักเลขไว้ด้านหลังตัวเรือน โดยมีเพียง 47 หมายเลขสวยเท่านั้น ที่เปิดให้แฟนไซโก มอนสเตอร์ (SEIKO Monster) ร่วมประมูลเพื่อเก็บสะสมเป็นคอลเลคชันพิเศษ โดยรายได้หลังหักใช้จ่ายสมทบทุนสร้าง KMCH
ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ พร้อมด้วย สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีความเข้มแข็งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ได้ขยายความร่วมมือกับ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด มาร่วมผลักดันการจัดสร้าง “โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” (KMCH) โรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจรแห่งแรกของไทย เพื่อสนับสนุนระบบสาธารณสุขและการแพทย์ไทย
เนื่องจากมูลค่าการนำเข้านวัตกรรมทางการแพทย์จากต่างประเทศสูงกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี โดยจัดทำและผลิตนาฬิการุ่นพิเศษ “SEIKO Monster KMITL” จำนวนหนึ่งพันเรือน ที่มีอัตลักษณ์ของสถาบัน ‘สีแคแสด’ บนหน้าปัดนาฬิกา ส่วนตัวเรือนทยังคงความเป็น ไซโก มอนสเตอร์ (SEIKO Monster)
“เราตั้งใจที่จะสร้างโรงพยาบาลซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ไม่ธรรมดาแต่จะเป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคตที่คนไทยต้องการ นอกเหนือจากการจะมีหมอเก่งๆที่คอยให้การรักษาแล้วที่แตกต่างก็คือKMCHจะเป็นโรงพยาบาลที่นำเอาเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรม ด้านสถาปัตย์การออกแบบ วิทยาศาสตร์ และmaterial มาผนวกกับด้านการแพทย์เพื่อสร้างเครื่องมือแพทย์แห่งแรกของประเทศไทย โรงพยาบาลแห่งนี้จะมีลักษณะเฉพาะไม่ดูเหมือนโรงพยาบาลแต่เป็นประติมากรรม มีความเป็น artwork
ส่วนนาฬิกาก็มีความเป็นศิลปะมีความเป็นวิศวกรรม และเป็นสิ่งที่ต้องตรงไปตรงมา โรงพยาบาลก็เช่นเดียวกันมีความเป็นศิลปะหมอก็ต้องมีใบประกอบโรคศิลป์ อาคารก็มีการนำสถาปัตย์เข้ามาเกี่ยวข้อง และใช้วิศวกรรมเข้ามาเพื่อสร้างเครื่องมือแพทย์เพราะฉะนั้นแล้วทั้งนาฬิกาและโรงพยาบาลก็มีส่วนที่เหมือนกัน”
นอกจากความร่วมมือกับไซโก (ประเทศไทย) แล้ว ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานภายใน เพื่อเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วม “ให้เพื่อสร้าง” โรงพยาบาลแห่งนี้ให้สำเร็จและขับเคลื่อนสุขภาพที่ดีขึ้นของคนไทยด้วยเทคโนโลยีโดยเร็ว ผ่านกิจกรรมที่เตรียมจัดขึ้นเร็วๆ นี้ อาทิ การประมูลพระบรมสาทิสลักษณ์ รัชกาลที่ 9 ผลงานของศิลปินชื่อดัง ดินหิน รักพงษ์อโศก ภายใต้การจัดงานของคณะวิทยาศาสตร์ สจล. และศิษย์เก่า ในพื้นที่ของสำนักข่าวไทย อสมท. (TNAMCOT) ถนนพระราม 9
ด้าน รศ. นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร (KMCH) กล่าวเสริมว่า คณะผู้บริหารโรงพยาบาล พร้อมด้วยมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ ตั้งเป้าให้โรงพยาบาลดังกล่าว มีความแตกต่างจากโรงพยาบาลแห่งอื่น ทั้งในด้านการให้บริการ การบริหารจัดการ และการพัฒนานวัตกรรม ด้วยการผสานจุดแข็งด้านวิชาการของสถาบัน ทั้งด้านวิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ฯลฯ มาพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่ใช้ได้จริง
ซึ่งที่ผ่านมาได้นำนวัตกรรมดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้สำเร็จ เพื่อแจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขที่มีความจำเป็นสูง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศจำนวนมาก อาทิ เครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow เครื่องช่วยหายใจแบบบีบมืออัตโนมัติ (KNIN II) และตู้ตรวจเชื้อ (Swab Test) แบบความดันบวก (Positive Pressure)
นอกจากนี้ โรงพยาบาลดังกล่าว ยังมีความพร้อมในการรักษาพยาบาลด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ร่วมด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และสอดรับกับ การรักษาโรคอุบัติใหม่ในอนาคต
“ปัญหาสาธารณสุขไทยมีปัญหาตลอดเวลา โดยเฉพาะในเรื่องของอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆจะเห็นได้ว่าทุกอย่างในโรงพยาบาลจะต้องนำเข้าทั้งหมดทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูง ฉะนั้นการที่เครื่องมือเหล่านี้จะลงไปถึงโรงพยาบาลต่างจังหวัดมีความเป็นไปได้ยาก สจล.ของเรามีคณะวิศวกรรม สถาปัตย์ วิทยาศาสตร์ ต่างๆ ซึ่งเรามีทั้งความรู้และวัตถุดิบมากมายเพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถทำเครื่องมือแพทย์เองได้ อุปกรณ์ที่จะได้ก็จะมีราคาที่ต่ำลง ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราสามารถที่จะกระจายอุปกรณ์เหล่านี้ไปยังโรงพยาบาลต่างจังหวัดได้
ซึ่งปัจจุบันสจลของเราก็ได้ผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์หลายรายการกระจายไปทั่วประเทศ แถมยังส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมาร์และลาว อีกด้วย
ในส่วนของโรงพยาบาลKMCH จำนวน 60 เตียงตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี เฟสแรกจะสามารถเปิดบริการได้ช่วงต้นปี 2566 ในส่วนของโครงสร้างทั้งหมด ระบบสาธารณูปโภคและหน่วยกายภาพบางส่วนรวมไปถึง opd ส่วนห้องผู้ป่วยในและ opd ส่วนที่ 2 ห้องฉุกเฉิน รวมไปถึง research center คงต้องรอเฟส 2 ช่วงปลายปี 2566 ถึงจะสามารถเปิดบริการได้เต็มรูปแบบ โรงพยาบาลนี้จะไม่เป็นโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ แต่จะเป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมและ smart hospital เน้นเฉพาะเรื่องของผู้สูงวัยกับฟื้นฟูสุขภาพ เราต้องการให้เป็น “โฮมเบสท์แคร์” คือทุกคนสามารถดูแลสุขภาพตัวเองโดยเน้นไปในเรื่องของการรักษาทางไกลผ่าน platform ซึ่งเป็นconcept เดียวกับhome isolation ในปัจุบัน
สำหรับงบประมาณการก่อสร้าง สจล. ประเมิณไว้ที่ 1000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 800 ล้านบาทและอุปกรณ์เครื่องมือไอทีต่างๆ 200 ล้าน โดยงบประมาณส่วนหนึ่งมาจากการผลิตและจำหน่ายนาฬิการุ่นพิเศษ “SEIKO Monster KMITL” จำนวน 1000 เรือน 1,000 หมายเลข คาดว่ารายได้หลังหักค่าใช้จ่ายหลังการจำหน่าย 953 เรือนจะสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลประมาณ 14-15 ล้านบาท แต่รายได้ที่จะได้มากที่สุดคือรายได้จากการประมูลเลขสวย 47 หมายเลข ว่าจะมีผู้บริจาคเลขมงคลสักเท่าไหร่ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด
ซึ่งจริงๆนาฬิการุ่นนี้เราไม่ได้เปิดขายทั่วไปแต่เราเปิดให้จองเมื่อต้นปีที่ผ่านมาและหมดภายใน 4 ชั่วโมง และคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบได้ภายในเดือนมีนาคมปีหน้าในราคาเรือนละ 23,500 บาท
ด้าน นายฮิโรยูกิ อาคาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด (SEIKO Thailand) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ไซโก มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวาระพิเศษครั้งนี้ เพื่อจัดสร้างโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เพราะตระหนักถึงความสำคัญและโอกาสทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย
“สำหรับ seiko เองโดยปกติจะไม่ค่อยมีความร่วมมือในลักษณะนี้ เพราะความสามารถในการผลิตของ seiko ค่อนข้างจำกัด ซึ่งโดยปกติแล้วการที่จะมีโปรเจคพิเศษจะส่งผลกระทบต่อไลน์ผลิตปกติที่ถูกระบุไว้ตามไทม์ไลน์ต่างๆ แต่ด้วยโปรเจคนี้เราต้องยอมรับว่า seiko ต้องการสนับสนุนและคืนกำไรสู่คนไทยด้วย จึงผลักดันให้เกิดรุ่น limited นี้ขึ้น ด้วย project นี้ concept ค่อนข้างพิเศษเราจึงสามารถที่จะต่อรองกับทางญี่ปุ่นได้ เพราะคนไทยเองก็สนับสนุน seiko มากกว่า 30 ปี
สำหรับไซโก มอนสเตอร์ (SEIKO Monster) ที่นำมาทำ limited edition ครั้งนี้ถือว่าเป็นรุ่นเรือธงของ seiko ที่สร้างชื่อให้กับ seikoในเมืองไทยและมีฐานแฟนและการสะสมนาฬิการุ่นนี้ค่อนข้างเยอะ
สิ่งที่พิเศษสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ จะมีการสกรีนโลโก้ของสจล.ลงไปด้านหลังของนาฬิกา ในส่วนของหน้าปัดเป็นสีพิเศษซึ่งเป็นสีแคแสดสีประจำสจล. ซึ่งค่อนข้างยากและมีข้อจำกัดซึ่งทางนี้ก็สามารถทำออกมาได้ใกล้เคียงกับสีที่ทางสจล.ต้องการ”