บริษัท ซีบีดี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CBD) บริษัทย่อยของ TWZ ลงนามในสัญญาสนับสนุนการวิจัยเรื่องการศึกษาสภาวะการให้แสงที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชกัญชงในโรงเรือน ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ณ โครงการวิจัยและพัฒนากัญชาคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ มทส. สวนเกษตรเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา บรมราชกุมารี
สำหรับการวิจัยดังกล่าว จะทำการศึกษาสภาวะการให้แสงที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชกัญชงพันธุ์ Charlotte’s angel เพื่อใช้เป็นตัวแทนในการทดลอง เนื่องจากกัญชงพันธุ์ดังกล่าว สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ให้สาร CBD ในปริมาณสูงและสาร THC ในปริมาณต่ำ เหมาะแก่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
อีกทั้งพืชกัญชงยังได้รับความสนใจจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเวชภัณฑ์ยา กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเครื่องดื่มและอาหารเสริม (Super Food) กลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษ กลุ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอเสื้อผ้า เป็นต้น คณะผู้วิจัยมีความสนใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยี LED เพื่อการปลูกพืชกัญชงโดยมุ่งเน้นการทดลองหาอัตราส่วนระหว่างแสงที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชกัญชงในโรงเรือน เพื่อส่งเสริมการปลูกกัญชงในเชิงพาณิชย์และการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โดยมีระยะเวลาในการศึกษาวิจัยรวม 8 เดือน
ทั้งนี้ บริษัท ซีบีดีฯ ซึ่งบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท TWZ ที่ลงทุนในธุรกิจ กัญชง กัญชา ได้สนับสนุนด้านงบประมาณ รวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยี LED ให้กับ มทส. ในการทำวิจัย ซึ่งผลของการวิจัยสามารถไปเพิ่มผลประโยชน์ต่างๆ มากมายได้จริง โดยบริษัท ซีบีดีฯ และ มทส.จะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในลิขสิทธิ์ สิทธิบัตรจากการศึกษาวิจัยโครงการนี้
และพร้อมให้บริษัท ซีบีดีฯ เตรียมต่อยอดผลวิจัยออกไปในเชิงพาณิชย์แต่เพียงผู้เดียวในผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี LED ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกพืชกัญชงกัญชาในประเทศไทยต่อไป
นอกจากนี้ปัจจุบัน บริษัท ซีบีดีฯ ยังเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย อุปกรณ์เทคโนโลยี LED เพื่อการเพาะปลูก กัญชง และกัญชา โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มเกษตรและบริษัทเอกชน ผู้ขออนุญาตผลิต (ปลูก) พืชกัญชง กัญชาเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม กับทาง อย. โดยได้รับอนุญาตแล้ว 1,255 ราย เป็นเนื้อที่รวมกว่า 1 หมื่นไร่มีโอกาสที่จะใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มผลผลิต เบื้องต้นมีผู้ที่สนใจและติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อแล้ว
โดยบริษัท ซีบีดีฯ สามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีในไตรมาสแรกของปี 2565 เป็นเงิน 50 ล้านบาท และบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขาย อุปกรณ์เทคโนโลยี LED ไม่น้อยกว่า 10,000 ชุด ในปี 2565 รวมเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท พร้อมกับเดินหน้าพัฒนาความร่วมมือกับผู้ผลิตตั้งโรงงานในประเทศไทยในอนาคต