นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ , เซ็นทรัล พลาซา, เซ็นทรัล เฟสติวัล ฯลฯ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คาดว่าตรุษจีนปีนี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอยของคนไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศ และมั่นใจว่าประชาชนยังคงออกมาใช้จ่ายซื้อของใช้ของไหว้สำหรับเทศกาล และออกมาทานอาหารกับครอบครัว
ดังนั้นบริษัทจึงเตรียมใช้เงินกว่า 200 ล้านบาทในการจัดแคมเปญ “2022 POWER OF THE GREAT TIGER ขาลรับพลังโชคดี สุขอินฟินิตี้” เพื่อสร้างบรรยากาศและกระตุ้นกำลังซื้อสร้างปรากฏการณ์แลนด์มาร์คตรุษจีนแนวใหม่ เพื่อสร้าง engagement ให้เข้าถึงคนไทยเชื้อสายจีนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Digital Lifestyle, Art Exhibition, Gaming Exhibition และ Art installation
รวมทั้งการจัด Chinese Market ที่รวมสารพัดเมนูมงคลจากร้านดังระดับตำนาน, ตลาดกาดจีนรวมสินค้าไหว้เสริมมงคลกว่า 10,000 ชิ้น, ชุดของไหว้มงคลพรีเมี่ยม, สินค้าแฟชั่นช่วงตรุษจีน, ไอเทมเด็ดเสริมดวง, งานโคมไฟยักษ์เสือมงคล, การแสดงโชว์มังกรพ่นไฟยาวที่สุดในประเทศไทย, Gaming Exhibition และกิจกรรมมูเตลูดิจิตอลสุดล้ำ สแกน AR ถ่ายภาพน่ารักๆ กับ 5 เสือมงคล พร้อมรับดิจิทัลอั่งเปา มูลค่าสูงสุด 500 บาท
“ประเมินว่ากำลังซื้อของลูกค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะมียอดใช้จ่ายราว 1.8 -2.5 หมื่นบาทต่อคน เฉลี่ยทุกเซ็กเมนต์ทั่วประเทศ ส่วนลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อสูง (Top spender) จะมียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 4 หมื่นบาทต่อคน”
ด้านนางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เชื่อว่ากำลังซื้อในเทศกาลตรุษจีนปีนี้ยังคงคึกคักและจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่พบว่าการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ไม่ได้รุนแรงมากตามที่คาดการณ์ไว้ เดอะ มอลล์จึงใช้งบกว่า 150 ล้านบาทในการจัดแคมเปญ THE MALL GROUP HAPPY CHINESE NEW YEAR 2022 : JOY LUCK LOVE ขานความสุข ตรุษปีขาล เพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะเข้ามาในช่วงตรุษจีนนี้
โดยไฮไลท์ของเทศกาลตรุษจีนปีนี้ เป็นการผสมผสานโลกเสมือนจริง (Metaverse) แบบ Mixed Reality เชื่อมโลกคู่ขนาดออฟไลน์-ออนไลน์ เพื่อตอบรับยุคดิจิทัล ทั้งกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศาลเพ่อเสือลอยฟ้า ที่รวมเหล่าองค์เทพมาให้สักการะ การแจก NFT ฮู้มงคลจากศาลเจ้าพ่อเสือ การแสดงโชว์ การแจกซองอั่งเปา 3D ผ่าน M Card App เป็นต้น
“เชื่อว่าไตรมาสแรกของปีนี้มีสัญญาณที่ดีจากปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งมาตรการโครงการช้อปดีมีคืน ที่ภาครัฐออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงพิษโอมิครอนก็ไม่ได้ระบาดรุนแรงมากนัก แม้จะมีภาวะเงินเฟ้อ สินค้าราคาปรับขึ้น แต่ห้างเองก็จับมือกับพันธมิตรในการจัดโปรโมชั่นเพื่อช่วยให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้มากขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังต้องจับจ่ายซื้อของในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะยังคงมีอยู่ ทำให้เชื่อว่าภาพรวมของตรุษจีนปีนี้จะดีกว่าปีก่อน”
เบื้องต้นประเมินว่าเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะมีเงินสะพัดราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งตรุษจีนถือเป็นแคมเปญใหญ่สุดในไตรมาส 1 ของปีนี้หลังจากที่ต้นปีเป็นช่วงรอยต่อจากเทศกาลปีใหม่ หลังจากนี้จะมีแคมเปญวาเลนไทน์ รวมถึงซัมเมอร์ ซึ่งภาพรวมของไตรมาส 1ปีนี้คาดว่าจะใช้งบการตลาดราว 300-500 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดขายราว 1.2-1.4 หมื่นบาท
ขณะที่ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายรวม 5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มียอดขายรวม 4.5 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ห้างค้าปลีกเป็นระยะเวลา 2 เดือนรวมถึงการปิดปรับปรุงเดอะมอลล์ ท่าพระ ทำให้ขาดรายได้ในส่วนนี้ไป