มนัญญาสั่งปลดล็อค กัญชา-กัญชง ห้ามกระทบผู้ปลูกในประเทศ

02 ก.พ. 2565 | 10:23 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2565 | 17:35 น.

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จี้กรมวิชาการเกษตรจัดทำมาตรการรองรับปลดล็อคกัญชา กัญชงหลุดยาเสพติดให้โทษ ไม่ให้ส่งผลกระทบเกษตรกร งัด พรบ.กักพืชและพันธุ์พืช ปิดทางนำเข้าเมล็ดพันธุ์ ช่อดอก ได้อย่างเสรี

นางสาวมนัญญา  ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้กัญชาและกัญชงพ้นจากยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 ยกเว้นสารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชงซึ่งเป็นพืชในสกุลแคนาบิส ตั้งแต่ร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนักยังเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5

มนัญญาสั่งปลดล็อค กัญชา-กัญชง ห้ามกระทบผู้ปลูกในประเทศ

ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายมีข้อกังวลในหลายประเด็น จึงได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเตรียมความพร้อมจัดทำมาตรการรองรับทุกข้อกังวลก่อนที่จะมีมติดังกล่าวออกมา

 

 

นายพิเชษฐ์  วิริยะพาหะ  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  ในประเด็นที่เป็นข้อกังวลเรื่องความพร้อมของเกษตรกรและพันธุ์พืชสกุลกัญชาที่จะใช้ปลูกนั้น  การดำเนินงานที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้รวบรวม  ศึกษา  และขยายพันธุ์กัญชาพันธุ์พื้นเมืองของไทย และพันธุ์การค้าจากต่างประเทศรวม 87 แหล่งปลูก  จำนวน 39 พันธุ์   ซึ่งกรมพร้อมที่จะผลิตต้นพันธุ์เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรนำไปปลูกได้อย่างเพียงพอ 

 

ทั้งนี้ กรมฯ ได้จัดทำคู่มือการปลูกพืชสกุลกัญชาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและครอบคลุมในทุกมิติเผยแพร่ไปสู่เกษตรกรแล้ว และยังได้ร่วมกับกรมพัฒนาที่ดินจัดทำแผนที่ความเหมาะสมการปลูกพืชสกุลกัญชาในแปลงปลูกของประเทศไทยด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูลได้ที่ www.doa.go.th บนเมนู “กัญชง กัญชา”

นอกจากนี้ กรมยังสนับสนุนการนำพันธุ์กัญชา กัญชงมาแจ้งขึ้นทะเบียนพันธุ์ โดยปัจจุบันมีพันธุ์กัญชาที่ได้หนังสือรับรองพันธุ์พืชขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรแล้วจำนวน 5 พันธุ์ คือ  อิสระ01  หางกระรอกภูพานเอสที 1  หางเสือสกลนครทีที 1  ตะนาวศรีก้านขาวดับเบิลยูเอ 1  ตะนาวศรีก้านแดงอาร์ดี 1 และกัญชงจำนวน 8 พันธุ์ คือ อาร์พีเอฟ 1  อาร์พีเอฟ 2  อาร์พีเอฟ 3  อาร์พีเอฟ 4  อาร์พีเอฟ 5  อาร์พีเอฟ 6  อาร์พีเอฟ 7  อาร์พีเอฟ 8

 

รวมทั้งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดการตรวจสอบลักษณะประจำพันธุ์ของพืชสกุลแคนาบิสที่ขอจดทะเบียนเป็นพันธุ์พืชใหม่เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 โดยกัญชากัญชงจะเป็นพืชที่สามารถนำพันธุ์ใหม่มายื่นขอจดทะเบียนรับความคุ้มครองได้ ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้นักปรับปรุงพันธุ์วิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชสกุลกัญชาให้มีความหลากหลายของพันธุ์มากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกร พร้อมกันนี้กรมวิชาการเกษตรยังได้เปิดขอบข่ายการรับรองแหล่งผลิตพืชกัญชากัญชงตามมาตรฐาน GAP เพื่อรองรับการปลูกที่ปลอดภัย ในเกรดที่นำไปทำเป็นยา และสำหรับบริโภคได้

 

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  สำหรับข้อกังวลเรื่องการนำเข้าเมล็ดพันธุ์  และช่อดอก พืชสกุลกัญชาจากต่างประเทศได้อย่างเสรีนั้น  กรมวิชาการเกษตรมีมาตรการทางฏหมายที่กำกับดูแลการนำเข้า คือ พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507  โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สามารถประกาศให้พืชสกุลกัญชาเป็นสิ่งต้องห้ามได้  หากวิเคราะห์ความเสี่ยงแล้วพบว่าประเทศต้นทางมีศัตรูพืชที่ร้ายแรง ซึ่งเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   โดยการนำเข้าสิ่งต้องห้ามที่ผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมวิชาการเกษตร แจ้งนำเข้าที่ด่าน พร้อมแนบใบรับรองสุขอนามัยพืชกำกับมาด้วย  รวมทั้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการที่กำหนด   พร้อมกับยังต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. พันธุ์พืช พ.ศ.2518 ซึ่งเมล็ดพันธุ์กัญชาและกัญชงเป็นเมล็ดพันธุ์ควบคุมการนำเข้า ส่งออก ขาย และรวบรวมจะต้องขออนุญาต และต้องไม่ใช่พืชดัดแปลงพันธุกรรม

 

นอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดมาตรกรการนำเข้าตามมาตรฐานการผลิตพืชโดยทำข้อตกลงกับประเทศต้นทางพืชที่จะนำเข้าได้นั้นจะต้องมาจากแปลงปลูกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตพืช GAP และผ่านการคัดบรรจุจากโรงคัดบรรจุที่ได้มาตรฐาน GMP ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสุขอนามัยพืชตามมาตรฐานสากล  เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารเคมีและศัตรูพืชมากับผลผลิต รวมทั้งเชื้อโรคต่าง ๆ เช่น เชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะเป็นมาตรการที่จะช่วยป้องกันไม่ให้มีการนำเข้าเมล็ด  ใบ และดอกกัญชาจากต่างประเทศเข้ามาได้อย่างเสรี