หลัง M-150 สร้างแบรนด์ผ่านกลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง โดยคว้า “ตูน บอดี้สแลม” เป็นพรีเซนเตอร์มายาวนาน ล่าสุด “โอสถสภา” ขยับตัวอีกครั้งกับการเปิดตัว M-150 สูตรใหม่ พร้อมกับ 2 พรีเซนเตอร์ใหม่ “เจ ชนาธิปและอุ้ม ธีรธร มาเสริมทัพพร้อมเดินหน้าสปอร์ต มาร์เก็ตติ้งเต็มรูปแบบ
นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็ม-150 ได้พัฒนาสินค้าใหม่ สูตรเพิ่มปริมาณวิตามินบี 12 สองเท่า น้ำตาล เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มพรีเมียมเซกเมนท์ โดยต่อยอดจากเอ็ม-150 สูตรกระชายดำ 150 มิลลิลิตร ที่ออกสู่ตลาดเมื่อปี 2562 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
โดย เอ็ม-150 สูตรใหม่ มีแพคเกจจิ้งเป็นขวดโฉมใหม่ ทรงกลม ดีไซน์ทันสมัย เหมาะกับกลุ่มคนทำงานที่รักสุขภาพ และต้องการพลังในการทำภารกิจต่างๆ พร้อมช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมองให้สดชื่น รับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าทั่วประเทศในวันที่ 1 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป
ด้านกลยุทธ์การตลาด เน้นสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านมิวสิค มาร์เกตติ้ง และสปอร์ต มาร์เกตติ้ง ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ พร้อมคว้า “เจ ชนาธิป และอุ้ม ธีรธร” มาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายทอดถึงการใช้ชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมอยู่ตลอดเวลา ร่วมกับ ตูน บอดี้สแลม ในแคมเปญเปิดตัว เอ็ม-150 สูตรเพิ่มวิตามินบี 12 สองเท่า “เป็นคนใหม่ ต้องดีกว่าเก่า” ผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์โฆษณา มิวสิควีดีโอ และสื่อโฆษณานอกบ้านทั่วประเทศ
“โควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน เราจึงเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคเครื่องดื่มบำรุงกำลังเป็นอย่างดี และนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้ตรงตามความต้องการ จึงมั่นใจว่า เอ็ม-150 สูตรใหม่นี้ จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และช่วยขยายพอร์ทโฟลิโอของเครื่องดื่มบำรุงกำลังให้ครอบคลุมมากขึ้น และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย”
ปัจจุบันโอสถสภา ถือเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง โดยมีส่วนแบ่งตลาดรวม 54.6% จากแบรนด์เอ็ม-150 ลิโพและโสมอินซัม ขณะที่ผลประกอบการโดยรวมในปี 2564 โอสถสภามียอดขายรวม 26,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% สะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจและการปรับตัวให้เข้ากับภาวะตลาดโดยใช้ข้อได้เปรียบจากการมีพอร์ตโฟลิโอสินค้าที่แข็งแกร่ง และเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคเชื่อถือ บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,255 ล้านบาท