นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า MUJI เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจบนเส้นทางของความยั่งยืนนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจเมื่อปี 2523 จนถึงปัจจุบันกว่า 40 ปี ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่ใช่แค่เพียงพัฒนาสินค้าที่ดีมีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังมุ่งสร้างชีวิตที่ดีด้วยแนวคิดช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชน
ปัจจุบันผลิตสินค้าครอบคลุมหลากหลาย ทั้งของใช้ในครัวเรือน เครื่องแต่งกาย และอาหาร โดย MUJI มีสินค้ากว่า 7,000 รายการ และขยายสาขาไปทั่วโลกและราว 1,000 สาขา ทั่ว 28 ประเทศ ในประเทศไทยเปิดสาขาไปแล้วจำนวนทั้งหมด 25 สาขา เปิดสาขาใหม่เมื่อปี 2564 จำนวน 5 สาขา และปรับโฉมใหม่สาขาเดิมด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้น จำนวน 2 สาขา และมีสินค้า MUJI วางจำหน่ายกว่า 3,000 รายการ
การพัฒนาสินค้าของ MUJI ตั้งอยู่บนหลักการ ดังนี้
การเลือกสรรวัสดุ เลือกวัสดุที่มีคุณภาพ ผลิตจากวัสดุธรรมชาติหรือออร์แกนิก 100 % ปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิต MUJI ให้ความสำคัญกับการรีไซเคิล การลดกระบวนการผลิต โดยการใช้วัสดุจากธรรมชาติไม่เสริมแต่งจากสารเคมี ลดขั้นตอนการทาหรือย้อมสี ช่วยลดขยะ และการใช้สารเคมีจากกระบวนการผลิต
ลดผลกระทบต่อโลกและสิ่งแวดล้อม เลือกวัสดุเหลือใช้จากภาคอุตสาหกรรม เพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิต ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าคุณภาพในราคาเข้าถึงได้ โดยในประเทศไทยมีนโยบายปรับราคาสินค้าให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่ายในราคาที่สมเหตุสมผลซึ่ง MUJI ได้ปรับลดราคาลงมากกว่า 1,780 รายการในประเทศไทย
ตั้งแต่ปี 2562-2564 ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่ายเพื่อลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง MUJI ใช้บรรจุภัณฑ์แบบเดียวกันในปริมาณมาก เน้นความเรียบง่ายเพื่อช่วยประหยัดทรัพยากร บรรจุภัณฑ์และฉลากสินค้าผลิตจากกระดาษเบจสีอ่อน ไม่ผ่านกระบวนการฟอกสีเยื่อกระดาษ มีความมินิมอล คงเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งช่วย ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและและชุมชน โดยจุดเริ่มต้นจากการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของ MUJI ผลิตจากฝ้ายออร์แกนิก 100% ทำให้ผู้บริโภคได้เสื้อผ้าสวมใส่สบาย และสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรท้องถิ่นทั่วโลก ในส่วนของมูจิ ประเทศไทยนั้น ยังได้สนับสนุนเกษตรกร และชุมชนไทย ในหลายรูปแบบ
เช่น การเลือกใช้กาแฟอาราบิก้า 100% จากดอยตุง ในร้าน MUJI Coffee corner ประจำสาขามูจิ ประเทศไทย จำนวน 8 สาขา และมีการจัดโซนผลิตภัณฑ์ขนมท้องถิ่น (Local Food) ซึ่งมีสินค้าวางจำหน่ายทั้งหมด 212 รายการ นอกจากช่วยผู้ประกอบการท้องถิ่นและชุมชนในด้านช่องทางขาย MUJI ยังถ่ายทอดแนวคิดการทำธุรกิจ และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ด้วย
“ MUJI จะครองใจผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ Sustainable lifestyle ด้วยคุณภาพของสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ดีไซน์มาพร้อมฟังก์ชันโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ยังต่อยอดไปสู่การสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างแบรนด์ ผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และชุมชนท้องถิ่น จากแนวคิดปรัชญาเพื่อคุณภาพชีวิต ไม่ใช่แค่คำนึงถึงผู้บริโภค แต่ยังหมายถึงคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือ Stakeholder ทุกรายด้วย
โดย MUJI ได้ดำเนินธุรกิจตามแผนการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำมาอย่างต่อเนื่อง ใส่ใจและตระหนักถึงการรบกวนสิ่งแวดล้อม โดยจะสร้างผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ตั้งแต่ขั้นตอนคัดสรรวัตถุดิบ กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการวางจำหน่ายหน้าร้าน รวมถึงการเข้าไปร่วมกับชุมชนท้องถิ่น โดยได้รวบรวมแนวคิดและการดำเนินงานที่ผ่านมา นำมาถ่ายทอดในงานนิทรรศการ “What is MUJI?” ในครั้งนี้ เพื่อส่งต่อแนวคิดการสร้างความยั่งยืนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สังคมและสิ่งแวดล้อม”
สำหรับนิทรรศการ “What is MUJI?” จัดบนพื้นที่ 250 ตร.ม. นิทรรศการในรูปแบบป๊อปอัพ แบ่งออกเป็นโซนไฮไลท์ดังนี้ MUJI Garment บอกเล่ากระบวนการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ขั้นตอน, MUJI Local Food ผลิตภัณฑ์อาหารจากผลผลิตของชุมชนท้องถิ่น กลายเป็นสินค้าที่ช่วยเพิ่มมูลค่า โดยผ่านกระบวนการผลิตสไตล์ MUJI เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
MUJI Local Activities รวบรวมกิจกรรมและเวิร์คช็อปที่ MUJI ได้สร้างสรรค์ร่วมกับชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทย และสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาไทย โดยตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา และกิจกรรม “Tarad Nut” ตลาดนัด MUJI โดยเปิดพื้นที่ภายในร้าน ให้กับสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นชุมชน ได้เข้ามาจำหน่ายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการขยายโอกาสในการขาย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อต้องการส่งเสริมและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น
“What is MUJI?” งานแสดงแนวคิดแบรนด์ MUJI จากปรัชญาเพื่อคุณภาพชีวิต สู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่วันที่ 3 - 17 มีนาคม 2565