การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ของ “เนชั่น กรุ๊ป” ด้วยการประกาศซื้อธุรกิจ Nation TV 22 และคมชัดลึก มูลค่ารวม 461 ล้านบาท ผนึกรวมธุรกิจสื่อในเครือสร้าง Synergy สูงสุด และขายเงินลงทุน Nation Broadcasting Corporation หรือ NBC ในสัดส่วน 61% ให้แก่ นายบุญเอื้อ จิตรถนอม และ นายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ OTO ในราคา 1.30 บาทต่อหุ้น จำนวน 691 ล้านหุ้น กวาดเงินกว่า 800 ล้านบาท
ด้วยเป้าหมายในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ONE NATION เพื่อความเป็นเอกภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เดินหน้าพัฒนาองค์กรยกระดับกลุ่มบริษัทสู่ Digital Asset ถือเป็นการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ในรอบกว่า 50 ปี ทำให้ชื่อของ “เนชั่น กรุ๊ป” ถูกจับตามองถึงก้าวย่างสำคัญในครั้งนี้
นายฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NATION เปิดเผยว่า การก้าวสู่ปีที่ 51 ของเนชั่น กรุ๊ป แน่นอนว่าบริบทในแต่ละช่วงเวลามีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี พฤติกรรมการเสพสื่อของผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป ในปีนี้ “เนชั่น กรุ๊ป” จึงมุ่งเน้นปรับโครงสร้างภายในให้เข้มแข็งเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง
โดยบริหารจัดการตามยุทธศาสตร์ ONE NATION ผนึกธุรกิจสื่อในเครือ สร้าง Synergy สูงสุด ให้เกิดเอกภาพ บนหลักการเสรีภาพสื่อ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดภาระต้นทุนที่ซ้ำซ้อน อาทิ การฟื้นฟูสำนักข่าวเนชั่น Nation News Agency (NNA) เป็นสำนักข่าวกลางที่มีความเข้มแข็งและความชำนาญการ ผลิตคอนเทนต์บางส่วนเพื่อซัพพอร์ตให้สื่อในเครือ
พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG เป็น “บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)” หรือ NATION โดยมีหน่วยธุรกิจอยู่ภายใต้อัมเบลล่าเดียวกันทั้งหมด ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 แพลตฟอร์ม ได้แก่ โทรทัศน์, สิ่งพิมพ์, สื่อนอกบ้าน, งานอีเวนต์ On Ground และ ออนไลน์
“การเดินหน้าฟื้นฟูสำนักข่าวเนชั่น Nation News Agency (NNA) หน่วยงานกลางในการผลิตคอนเทนต์เสริมให้แต่ละแบรนด์ ซึ่งมีกองบรรณาธิการของตนเองที่เข้มแข็งและมีเสรีภาพในการผลิตเนื้อหาคอนเทนต์คุณภาพสู่ประชาชนตามอัตลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น เนชั่นทีวี, เนชั่นออนไลน์, กรุงเทพธุรกิจ, คมชัดลึก, สปริงนิวส์, ไทยนิวส์, เดอะเนชั่น (ภาษาอังกฤษ), โอเคเนชั่น, ขอบสนาม และ เดอะ พีเพิ่ล
แต่ละแบรนด์เปรียบเสมือนเชือกแต่ละเส้นเมื่อถักร้อยรวมกันย่อมแข็งแรง และสามารถพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ในอนาคต ภายหลังจากการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ องค์กรเราจะมีสถานะทางการเงินที่แข็งแรง โดยผมเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลกำไรให้องค์กร สร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นและพนักงาน
หลังการปรับโครงสร้างต่างๆภายในกลุ่มแล้วResource และ สินทรัพย์ทางปัญญาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถังข้อมูลข่าวตลอด 51 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงรูปภาพและวิดีโอหากนำมาจัดการแปลงสู่สินทรัพย์ดิจิทัลจะมีมูลค่ามหาศาล เป็นสิ่งที่เราเตรียมบริหารจัดการให้เป็นระเบียบ โดยมีการแต่งตั้งบริษัท ฟิวเจอร์ คอมเพเทเร่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาเข้ามาช่วยดูแลและศึกษาการออกเหรียญโทเค่น หรืออาจจะเป็น NFT ในไตรมาส 3-4 จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น
“ทีมบริหารมีการประชุมวางแผนร่วมกันมากว่า 6 เดือน จนลงตัวและเหมาะสมที่สุด สำหรับองค์กรในวันนี้ เปรียบเสมือนเชือกแต่ละเส้นเมื่อถักร้อยรวมกันย่อมแข็งแรง และสามารถพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ในอนาคต ภายหลังจากการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ องค์กรเราจะไม่มีหนี้สิน ผมเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลกำไรให้องค์กร สร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นและพนักงาน”
วันนี้ภาพรวมองค์กรเนชั่น กรุ๊ปมีหลากหลายแบรนด์ หลาย Business Unit ที่ผ่านมาแต่ละแบรนด์ทำหน้าที่ของตัวเอง ในการนำเสนอ สร้างคอนเทนต์ออกสู่แพลตฟอร์มของตนเองสู่สังคม เมื่อมีหลายแบรนด์ แน่นอนว่าเสรีภาพของแต่ละแบรนด์ แต่ละกองบรรณาธิการต้องมี ซึ่งในทางธุรกิจต้องสร้าง Synergy ให้เกิดเอกภาพและประสิทธิภาพสูงที่สุด เพื่อประโยชน์ในด้านการจัดการบริหารขององค์กร ลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
นายฉาย กล่าวอีกว่า องค์กรเราคือ Content Provider ผลิตและขายคอนเทนต์ ดังที่ว่า Content is a king, Context is a Queen คอนเทนต์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เนชั่น กรุ๊ปยึดมั่นในอุดมการณ์ในการทำหน้าที่ ตามจริยธรรมวิชาชีพสื่อ ตรวจสอบทุจริต ดูแลผลประโยชน์ เพื่อประเทศชาติและประชาชน ตอกย้ำความเป็นสื่อที่รับผิดชอบต่อสังคม เราตั้งใจผลิตเนื้อหาคอนเทนต์ที่ดี มีคุณภาพ ซื่อตรงและต้องเป็นประโยชน์
“คอนเทนต์คุณภาพคือ คอนเทนต์ที่ไม่เป็นผลไม้พิษ ต่อความคิดประชาชน อะไรที่ทำให้สังคมบิดเบี้ยว สร้างมลภาวะทางความคิดในสังคม และ คอนเทนต์ฉาบฉวย เพื่อเรียกเรตติ้งหรือสร้างพลังลบสู่สังคมเราไม่ทำ”
อ่านเพิ่มเติม
NMG เคาะเงินลงทุน 461 ล้านบาท ซื้อหุ้น"NNV" พร้อมรีแบรนด์หุ้นเป็น "NATION"
"บุญเอื้อ - ณัฐพงศ์"ประกาศซื้อหุ้น NBC จาก NMG 61% ทำเทนเดอร์ฯ 1.30 บ.