นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2564-2565 (1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2564) บริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 2,982 ล้านบาท เติบโตถึง 11.8% โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,694 ล้านบาท เติบโต 14.5% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,288 ล้านบาท เติบโต 8.5% ขณะที่กำไรสุทธิ 389 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 73.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่ง บริษัทวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อนมากขึ้นและเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้
1. สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ
โออิชิได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ตอบรับเทรนด์สุขภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น ชาเขียวโออิชิขยายกลุ่มสินค้าไม่มีน้ำตาลและกลุ่มสินค้าที่เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ชาเขียวโออิชิ พลัสซี เพิ่มวิตามินซี 200%, ชาเขียวโออิชิ โกลด์ วาโคฉะ เป็นต้น ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานมีการสร้างสรรค์เมนูและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพใหม่ ๆ เช่นกัน
2. สร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดที่แปลกใหม่และแตกต่างเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ธุรกิจเครื่องดื่มสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ เช่น กิจกรรมของชาเขียวโออิชิ ‘โออิชิ x ดาบพิฆาตอสูร’ นำตัวละครอนิเมะสัญชาติญี่ปุ่นมาปรากฏบนบรรจุภัณฑ์ โดยมีการออกแบบร่วมกับเจ้าของลิขสิทธิ์อนิเมะดาบพิฆาตอสูรประเทศญี่ปุ่น พร้อมสร้างสรรค์ต่อยอดเป็นของรางวัลและไอเท็มดีไซน์ลิมิเต็ดอิดิชั่น ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโออิชิได้เป็นอย่างดี
ส่วนธุรกิจอาหารทำการตลาดในรูปแบบออมนิแชนแนล (Omni-Channel) เชื่อมโยงช่องทางขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด
3. นำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาพัฒนาสินค้าและบริการที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
ร้านอาหารมีการพัฒนานวัตกรรมทั้งสินค้าและบริการเพื่อมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัยให้ลูกค้า เช่น ระบบ contactless payment, QR ordering รวมทั้งการนำระบบมาใช้ในการบริหารจัดการภายในทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน ส่งผลให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทันสมัย ครอบคลุม และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจเครื่องดื่มเน้นกลยุทธ์การเข้าถึงผู้บริโภคในพื้นที่และช่องทางขายใหม่ ๆ อย่างช่องทางออนไลน์และเดลิเวอรี่ รวมถึงการสื่อสารและการทำตลาดในโลกดิจิทัล เช่น สร้าง Loyalty Platform แอปพลิเคชัน ‘OISHI CLUB’ ซึ่งนอกจากเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้บริโภคในระยะยาวผ่านกิจกรรมบน แอปพลิเคชันแล้ว ยังเป็นการช่วยผลักดันยอดขายโออิชิได้เป็นอย่างดี
ส่วนธุรกิจร้านอาหารเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าโดยเปิดแบรนด์ร้านอาหารใหม่ “โออิชิ บิซโทโระ” (OISHI BIZTORO) ด้วยโมเดลไฮบริดภายใต้แนวคิด ‘ทางเลือกความอร่อยง่าย ๆ สไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์น’ ที่ผสมผสานระหว่างการให้บริการอาหารประเภทราเมน / และดงบุริหรือข้าวหน้าญี่ปุ่นต่าง ๆ แบบทานง่าย ๆ สะดวก ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวกสบายรวดเร็ว ในราคาคุ้มค่า ตลอดจน Grab & Go ที่มีโมเดลร้านของ “โออิชิ ทู โก” (OISHI to go) เข้ามาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกของอาหารที่รวดเร็วและสะดวกสบาย
รวมถึงโมเดลช่องทางการขายรุกประชิดผู้บริโภคด้วยกลยุทธ์ “โออิชิ ฟู้ด ทรัค” (OISHI Food Truck) เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้โออิชิใกล้ชิดลูกค้าได้มากกว่าเดิม สามารถย้ายไปหาลูกค้าในพื้นที่ต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น ขณะที่ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานมีการขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุมทั้งโมเดิร์น เทรด (Modern Trade) และออนไลน์
5. ขยายตลาดส่งออก
ปัจจุบันโออิชิ กรีนที เป็นผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา บริษัทเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งและขยายสินค้าในตลาดส่งออกหลัก พร้อมขยายการเติบโตในตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องโดยจัดกิจกรรมการตลาดที่โดนใจผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่น และใช้การสื่อสารทางออนไลน์มากขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานมีการผลักดันตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เกี๊ยวซ่าสู่ประเทศใหม่ ๆ ในยุโรปมากขึ้น