รายงานข่าว ระบุว่า บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์บริหารร้าน “เอแอนด์ดับบลิว” ในประเทศไทย เตรียมยุติการดำเนินกิจการ “เอแอนด์ดับบลิว” (A&W) ผู้ให้บริการร้านอาหารและเครื่องดื่มบริการด่วน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 26 สาขา
โดยสาเหตุหลักมาจากการประสบปัญหาผลประกอบการขาดทุน จากวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ที่ต้องเผชิญกับมาตรการต่างๆของภาครัฐ รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ผลประกอบการธุรกิจร้านอาหาร A&W ในปี 2564 ขาดทุน 70 ล้านบาท จึงตัดสินใจขอยุติกิจการกับคณะกรรมการบริษัท นอกจากนี้ยังปิดให้บริการร้านอาหาร Kitchen Plus อีก 2 สาขาในเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วย
ปัจจุบันร้านเอแอนด์ดับบลิว มีทั้งหมด 26 สาขา ซึ่ง CLOCON ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียวจาก A&W Restaurants Inc. ตั้งแต่ปี 2558 เป็นเวลา 20 ปี โดยเข้าซื้อทรัพย์สินและสิทธิในการบริหาร A&W จาก บริษัท เอแอนด์ดับบลิว เรสเตอรองต์ (ประเทศไทย) จำกัด
โดยเปิดให้บริการทั้งในศูนย์การค้า สถานีบริการน้ำมัน รวมถึงในรูปแบบสแตนด์อะโลน โดยมีจุดขายคือวาฟเฟิลและเครื่องดื่มรูทเบียร์ ทั้งบริการในร้านค้า ซื้อกลับบ้าน และช่องทางดีลิเวอรี
ขณะที่ผลประกอบการในธุรกิจร้านอาหารของ GOLCON พบว่า ในปี 2564 มีรายได้รวม 1,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ขาดทุน 166 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 189% โดยการขาดทุนหลักมาจากร้าน A&W ที่ขาดทุน 70 ล้านบาท จึงตัดสินใจหยุดการดำเนินงาน
พร้อมตั้งสำรองสินทรัพย์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการหยุดดำเนินงานในธุรกิจนี้อีก 90 ล้านบาท เช่นเดียวกับร้านอาหาร Kitchen Plus ปิดสาขาที่เหลืออีก 2 สาขาในเดือนมกราคม 2565 ตั้งสำรองอีก 68 ล้านบาท รวมทั้งหมด 160 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 2564 GLOCON ขาดทุน 166 ล้านบาท
สำหรับบริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) เดิมชื่อ บมจ. เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) (NPPG) ทำธุรกิจหลายประเภท โดยธุรกิจหลัก คือธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ,อาหาร,อาหารแปรรูป รองลงมาคือ ธุรกิจผลไม้อบแห้ง และธุรกิจร้านอาหาร