‘THE PARENTS’ ปั้นเนอร์สซิ่งโฮม เจาะตลาดสูงวัยแสนล้าน

การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอดในปี 2575 ซึ่งมีสัดส่วนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 20% ของจำนวนประชากร ทั้งหมด ส่งผลให้ตลาดสินค้าและบริการสำหรับผู้สูงวัยเติบโตซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 1.07 แสนล้านบาทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความนิยมและมีดีมานด์สูงคือ กิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง เช่น เนอร์สซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือโรงพยาบาลผู้สูงอายุ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี เติบโตของเพิ่มขึ้นกว่า 150% ทำให้วันนี้ประเทศไทยมีเนอร์สซิ่งโฮมถึง 4,000 แห่ง

 

นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ “TM” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นิยามคำว่า ผู้สูงอายุ คือผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยมีอัตราผู้สูงวัยที่อายุ 60 ปีขึ้นไปกว่า 20% โดยในจำนวนนี้ 0.3 % หรือ 3-5 แสนคนอยู่ในภาวะพึ่งพิง หรือต้องการคนช่วยเหลือ

ทั้งนี้ “TM” ตั้งเป้าลุยตลาด “สังคมผู้สูงอายุ” โดยเข้าไปถือหุ้น 80%ในทีเอ็ม เนิร์สซิ่ง แคร์ จำกัด หรือ TMNC ในปี 2563 โดยมีแผนปั้น “THE PARENTS” ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ธุรกิจได้แก่ โรงเรียนสอนการดูแลผู้สูงอายุ The Parents Nursingcare school เพื่อผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพป้อนโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และส่งบุคลากรที่ผ่านการอบรมเข้าไปดูแลผู้สูงอายุในที่พักอาศัย

 

ส่วนที่ 2 คือ The Parents Nursing Home ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจำนวน 120 เตียง ประกอบไปด้วย เตียงเดี่ยวหรือห้อง VIP และชนิดเตียงรวม ซึ่งดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 70% และคาดว่าจะสามารถเปิดบริการเฟสแรกได้ประมาณเดือนตุลาคมของปีนี้ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะรับดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรืออยู่ภาวะพึ่งพึง รวมไปถึงผู้ป่วยที่ต้องการเข้ามาพักฟื้นหลังการผ่าตัด ทาง Nursing Home จะจัดบุคลากรช่วยดูแล

ส่วนสุดท้ายคือ The Parents Hospital โรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุรองรับได้ 28-30 เตียง โดยเน้นบริการ เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด ทั้งในส่วนของแพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์แผนจีน หน่วยไตเทียม ธาราบำบัด การบริบาลนักกีฬา บริบาลคุณแม่หลังคลอด บริบาลผู้เป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต และผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรม สปา ซึ่งเป็นแพทย์ทางเลือกที่ได้รับนิยม โดยแต่ละเคสที่จะเข้ามารับบริการจะได้รับการประเมินจากแพทย์ เพื่อออกแบบการรักษาฟื้นฟูหรือให้การประคับประคองผู้สูงอายุเฉพาะบุคคล

 

ทั้งนี้ในส่วนโรงพยาบาล ได้รับการอนุญาตก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนพฤษภาคมโดยใช้เวลาก่อสร้างประมาณปีครึ่ง ซึ่งจากเดิมตั้งเป้าว่าการก่อสร้างจะเสร็จสิ้นในปี 2565 และเปิดดำเนินการได้ในปี 2566

 

“ผู้สูงอายุจะมี 2 กลุ่มคือกลุ่มที่อยู่ในภาวะพึ่งพึง และกลุ่มที่ยังแอคทีพซึ่งมีสัดส่วนกว่า 90% กลุ่มนี้จะต่างกับผู้สูงอายุรุ่นแรกๆ คือ รู้จักการเล่นคอมพิวเตอร์ รู้จักหาความสุขให้กับตัวเอง มีการท่องเที่ยว ออกกำลังกาย ซึ่งเราบริการผู้สูงอายุกลุ่มนี้ในเรื่องของสปา อาหารสุขภาพ การป้องกัน สมุนไพร เพราะฉะนั้นบริการของเราค่อนข้างครอบคลุมความต้องการของผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการหรือมีภาวะพึ่งพิงหรือคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ เพราะเรามีนโยบาย 2 ด้านคือ 1. ป้องกัน 2. ฟื้นฟู

 

นอกจากนี้เราก็สามารถรองรับคนไข้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เพราะเรามีมาตรฐาน ISO และตอนนี้เริ่มเข้าไปพูดคุยกับผู้สูงอายุจากประเทศเยอรมนีและตัวแทนผู้สูงอายุจากประเทศญี่ปุ่น ที่ส่วนในธุรกิจและบริการดูแลผู้สูงอายุของเราและอยากเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจในอนาคต”

 

สำหรับแผนในระยะยาว “TM” มีแผนต่อยอดโมเดล “THE PARENTS” โดยขยายบริการให้ครบทั้ง 4 มุมเมือง ซึ่งปัจุบันโครงการแรกตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ต่อไปขยายไปลงทุนทางทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ ทิศเหนือ และทิศใต้ของกรุงเทพตามลำดับ รวมทั้งการจับมือกับพาร์ทเนอร์ตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม นอกจากบริการดูแลผู้สูงอายุภายใต้ “THE PARENTS” แล้ว “TM” ยังเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ภายใต้ “TM Herb” ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ อาทิ เครื่องทำน้ำด่าง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ในรูปแบบแคปซูล อาทิ กระท่อม กระชาย กระเทียม น้ำมันกัญชง ฟ้าทะลายโจร ผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอาง อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ ประเภท Probiotic จากประเทศเกาหลี ผ้าเช็ดตัวสำหรับผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และผ้าอ้อมผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยจะเริ่มทยอยทำการตลาดในเชิงพาณิชย์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้ “TM CARE SHOP” ภายในช่วงไตรมาสหนึ่งนี้

 

โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ซัพพอร์ตธุรกิจเนอสซิ่งโฮมและโรงพยาบาลผู้สูงอายุ ซึ่งแต่เดิมบริษัทนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประสบกับภาวะต้นทุนสินค้าสูง บริษัทจึงกำหนดสเปคให้เป็นมาตรฐานเดียวกับญี่ปุ่นและสั่งผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดต้นทุนสินค้าและลดภาระของผู้บริโภคด้วย

 

สำหรับปี 2565 “TM” ตั้งเป้าที่จะมีรายได้ 700-750 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5-10% และเมื่อ THE PARENTS แล้วเสร็จเต็มรูปแบบ ทั้งอาคาร Nursing Home และอาคาร Rehabilitation Hospital (ภายใต้ The Parents Hospital ) จะผลักดันให้ THE PARENTS เป็นศูนย์กลาง (Hub) ของภูมิภาคในการให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรทุกมิติ และเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มจากธุรกิจดังกล่าว เข้ามาเฉลี่ย 100-150 ล้านต่อปี ตามสัดส่วนที่ TM ถือครองหุ้นตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศราฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,765 วันที่ 13 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2565