พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่งฯ หรือ PROS มองธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความผันผวน ขณะที่ธุรกิจด้านสุขภาพมีโอกาสเติบโตสูง ความเสี่ยงต่ำ ทุ่มงบ 30 ลบ. เข้าลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางที่มีศักยภาพ หวังสร้างมิติรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น
โดยใช้ความเป็นผู้นำในงานรับเหมาวิศวกรรมต่อยอดการเติบโต หนุนศักยภาพทางธุรกิจและโครงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่ง ทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในอนาคต นับเป็นภาพที่ชัดเจนของ PROS ในการสร้าง Business model ใหม่
นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS หนึ่งในผู้นำด้านงานรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า PROS ได้เริ่มต่อยอดจุดแข็ง เดินหน้าเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ ใช้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการบริหารงานเชิงวิศวกรรมมากว่า 26 ปี ได้เข้าลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทาง
โดยใช้เงินลงทุนในครั้งนี้ 30 ล้านบาท จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในปัจจุบัน โดย PROS เข้าถือหุ้น 7.5% อีกทั้ง ร่วมผลักดันการเติบโต จากแผนการนำโรงพยาบาลเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
ทั้งนี้กลุ่มผู้บริหารโรงพยาบาลมองว่า อยากใช้จุดเด่นและความแข็งแกร่งในธุรกิจของ PROS เข้าไปช่วยสนับสนุนงานก่อสร้างอาคาร โดยใช้ความรู้และเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมมาประยุกต์กับหลักการและเหตุผลทางการแพทย์ได้ โดยนำไอเดียที่ต่างกันไปเสริมความแข็งแกร่ง ปัจจุบันโรงพยาบาลอยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง
“ในสถานการณ์ที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความผันผวน PROS ได้พยายามหาช่องทางการเติบโต นำความรู้ ความเชี่ยวชาญ เข้าลงทุนในธุรกิจที่เป็นโอกาส โดยเฉพาะธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งถือเป็นเมกะเทรนด์ทางด้านสุขภาพที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ
และถือว่าเป็นการนำจุดแข็งของธุรกิจสร้างการเติบโตให้บริษัทในระยะยาว เป็นโอกาสที่ได้ใช้ประสบการณ์ในการทำงาน เอามาใช้ในการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ มากขึ้น”
ทั้งนี้ PROS เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านงานรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารรายใหญ่ของประเทศ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานมาอย่างยาวนาน มุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ การดูแลและเอาใจใส่ลูกค้าแต่ละโครงการอย่างใกล้ชิด การตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
ตลอดจนการส่งมอบงานที่มีมาตรฐานและคุณภาพภายในระยะเวลาที่ลูกค้ากำหนด ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของโครงการให้ดำเนินงานติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารมาอย่างต่อเนื่อง โดยฐานลูกค้าหลักกระจายอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ห้างสรรพสินค้า อาคารชุดพักอาศัย ศูนย์กระจายสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาล เป็นต้น
ด้านภาพรวมแผนธุรกิจปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% โดยใช้กลยุทธ์การกระจายกลุ่มลูกค้า การรับงานตรงจากลูกค้าโดยเลือกลูกค้าที่มีฐานะการเงินมั่นคง และขยายสัดส่วนไปรับงานภาครัฐมากขึ้น รวมทั้งเลือกรับงานในกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็นงานระยะสั้น