CMO ปั้น 2 บิ๊กโปรเจ็ค Event-Entertainment ปลุกตลาดไตรมาส2

18 เม.ย. 2565 | 07:32 น.
อัปเดตล่าสุด :18 เม.ย. 2565 | 14:43 น.

CMO รุกไตรมาส 2-3 ลุุยปั้น Event / Entertainment ประเดิมExperience Brand สองโปรเจ็กต์ ด้าน Conference และงาน Festival สำหรับ Gen Z พร้อม Launch 5 คอนเสิร์ตใหญ่จากเกาหลี ในไตรมาสที่ 2-3 คาดมูลค่างานรวม ไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท

CMO มั่นใจปีนี้ตลาดกลับมาเติบโตได้เหมือนเดิม เดินหน้า Event และ Entertainment ไตรมาส 2 เต็มรูปแบบ ผ่าน xperience Brand สองโปรเจ็กต์ ทั้ง Conference และงาน Festival สำหรับ Gen Z โดยเฉพาะ

 

นอกจากนี้ยังพร้อมเตรียม Launch 5 คอนเสิร์ตใหญ่จากเกาหลี มูลค่างานรวม ไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาทในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ควบคู่ไปกับการเตรียมออก NFT สำหรับ Entertainment โดยเฉพาะ

นายอริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาสที่2-3 ปีนี้ บริษัทฯ มีแผนงานที่จะจัดงานทั้งในส่วนของ Event และ Entertainment อย่างต่อเนื่อง

 

โดยจะมีการจัดงานทางด้าน International Performance Marketing ภายใต้แบรนด์ที่ชื่อว่า Hook ในเดือนมิถุนายน โดยภายในงานดังกล่าวจะเป็นการรวบรวม Speaker ชื่อดังจากต่างประเทศเข้ามาให้ความรู้ทางด้าน Performance Marketing อย่างเข้มข้น ด้วยเนื้อหากว่า 40 Content ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 3 วัน

 

นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคมจะมีการจัดงานที่เรียกว่าเป็น Festival Finance สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Gen Z โดยเฉพาะ ภายใต้แบรนด์ที่ชื่อว่า Finz ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของงาน Festival ในปัจจุบัน

“ในช่วงไตรมาส 2 เรามีแผนงานที่จะนำ Experience Event ในหลายรูปแบบเข้ามาเปิดตลาด และสร้างความแปลกให้กับวงการ ถือเป็นการเปิดแนวรุกอย่างชัดเจนหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มานานถึง 2 ปี ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้กลุ่มเป้าหมายเราจะเห็นรูปแบบ Experience ใหม่ๆ ของ CMO อย่างแน่นอน”

 

นายอริยะ กล่าวต่อไปว่า นอกจาก Event แล้วบริษัทฯ ยังมีแผนงานจะจัดงาน Entertainment ทางด้าน Concert จากศิลปินดังฝั่งเกาหลีอีก 5 Concert ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม - ตุลาคม ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากแฟนเพลงชาวไทยเป็นอย่างดี หลังจากที่ห่างหายไปนานกับ Live Concert เต็มรูปแบบอย่างแท้จริง สำหรับโครงการและงานที่ CMO กำลังจะทำในช่วงไตรมาสที่ 2-3 นี้ คาดว่จะมีมูลค่างานรวมกันราว 450 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20-30% จากงาน Event, Equipment และ Entertainment ของบริษัทฯ

 

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังมีแผนงานในการที่จะออกสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภท NFT เพื่อใช้สำหรับการเข้าชม Concert อีกด้วย ซึ่งจะมีการกำหนดแผนงานและแจ้งให้แฟนๆ ที่ชมงาน Concert ชาวไทยได้รับทราบกันต่อไป

 

“และนอกจากการออกสินทรัพย์ดิจิทัลแล้ว เพื่อความเป็น Experience-Tech Creator บริษัทฯ ได้เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในบริษัท Tech ต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจ Event, Entertainment และที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อลงทุนในบริษัทดังกล่าว เพื่อสร้างความเป็นผู้นำทางด้าน Tech ต่อไป”