นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ดี.พูลส์ จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ไทยเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ประกอบกับการผ่อนผันถอดหน้ากากอนามัยในพื้นที่ 31 จังหวัดเพราะสามารถควบคุมโรคโควิด-19ได้แล้วนั้น สิ่งที่จะตามมาคือการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ ความเติบโตของการประกอบธุรกิจการค้าและการลงทุนอันเนื่องจากเกิดความตื่นเต้นเกิดความเชื่อมั่นที่เห็นสอดคล้องกับนโยบายภาคราชการ
“ตอนนี้เริ่มเห็นการเร่งงานก่อสร้างหรืองานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จเร็วขึ้น เป็นบรรยากาศของการขยับตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งประเทศ จะมีความสำเร็จของภาคธุรกิจตามมา”
ธุรกิจสระว่ายน้ำของเจ.ดี.พูลส์ไม่ต่างกันกับธุรกิจอื่นๆ เมื่อความต้องการของการเปิดตลาดของประเทศไทยมีความกว้างขวางแม้ภาคการท่องเที่ยวจะยังไม่ครบถ้วน แต่การเคลื่อนย้ายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกคึกคักมาก คนไทยก็ขอวีซ่าไปเที่ยวต่างประเทศ ภาพความรู้สึกวันนี้คือมาแล้วพร้อมแล้วกับการค้าขาย วัสดุก่อสร้างตอบโจทย์งานโครงการ การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน เมื่อนักท่องเที่ยวมาการปรับปรุงกิจการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัว
“สระว่ายน้ำต้องเตรียมความพร้อมในหน่วยธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและด้านอสังหาริมทรัพย์ ลูกค้าเริ่มติดต่อมามากขึ้นในพื้นที่การท่องเที่ยวหลายจังหวัด เร่งให้ดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จเพื่อจะรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา บางรายมีเหตุผลว่าทางธนาคารเร่งรัดให้ทำต่อให้เสร็จเพื่อจะปล่อยสินเชื่อที่ขอไว้ ทั้งๆที่ 2 ปีที่ผ่านมาธนาคารชะลอสินเชื่อ นี่เป็นสัญญาณที่สำคัญ
งานของเจ.ดี.พูลส์ สัมพันธ์กับกลุ่มบ้านพักส่วนบุคคล วิลล่า โรงแรม คอนโดมิเนียม เชื่อมโยงธุรกิจท่องเที่ยว ครึ่งปีหลังจึงมีความกระฉับกระเฉงขึ้น ตอบโจทย์การขายใหม่ ตอบโจทย์การซ่อมปรับปรุงสระเก่าให้พร้อมใช้งาน การบริหารจัดการที่เป็นกระบวนการน่าจะทำให้เรามีลูกค้าจะมากขึ้นในครึ่งปีหลังโดยเฉพาะช่วง 3-4 เดือนนี้สระที่ยังสร้างไม่เสร็จแล้วเคยชะลองานไว้ต้องเร่งให้เสร็จ กับงานปรับปรุงสระเก่าให้กลับมาพร้อมใช้เหมือนเดิม”
กรรมการผู้จัดการบริษัทเจ.ดี.พูลส์กล่าวในตอนท้ายว่า มองปัจจัยการกลับมาของตลาดท่องเที่ยวและสถานการณ์โควิด-19 ที่ลดการแพร่ระบาดลงจนใกล้จะประกาศเป็นโรคประจำถิ่นแล้วนั้น เป้าหมายการขายน่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกประมาณ 10-15% เพราะเชื่อมั่นว่าตลาดจะกลับสู่ภาวะปกติแล้ว