ชื่อของ “เอพริล เบเกอรี่” เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้ชื่นชอบรับประทานพายและเบเกอรี่ ด้วยความโดดเด่นและลงตัวทั้งวัตถุดิบและรสชาติ ทำให้ยืนอยู่ในตลาดมาต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 10 ปีและเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าไปวางขายในร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่าง “เซเว่น อีเลฟเว่น” จนเติบโตแบบก้าวกระโดด
นางกนกกัญจน์ มธุรพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงหา ฟู้ด อินดัสทรีส์(ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้าน “เอพริล เบเกอรี่” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายของบริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ หลังจากที่เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องทั้งในด้านการผลิต การกระจายสินค้า การพัฒนาเมนูใหม่ในช่วงที่ผ่านมา จนวันนี้ถือว่ามีความพร้อมและความแข็งแรงในการขยายธุรกิจ รวมทั้งเตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต
“ก่อนจะเริ่มต้นวางขายในเซเว่นฯ มีการพูดคุยกันมากกว่า 5 รอบ เพราะต้องปรับจูนกันให้ลงตัวทั้งเรื่องของการพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า แพ็กเกจจิ้ง รวมถึงราคา และคุณภาพที่ต้องได้มาตรฐาน เพราะเซเว่นฯ มีประสบการณ์และมีข้อมูลของฐานลูกค้ามากกว่าเรา ส่วนเราจะมีประสบการณ์เรื่องของสินค้าว่าจะปรับอย่างไรให้เหมาะ เพราะเดิมพายของเอพริลฯ เป็นที่รู้กันว่า ชิ้นใหญ่ ไส้เยอะ แต่ลูกค้าของเซเว่นฯ จะชอบอีกแบบจึงต้องปรับให้มีขนาดที่เหมาะสม”
โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาทในการตั้งโรงงานแห่งใหม่ในย่านสุขสวัสดิ์ที่ได้มาตรฐานเพื่อผลิตและรองรับการขายในเซเว่นฯ และร้านสาขา ล่าสุดในปีนี้ได้ลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ในย่านสุขสวัสดิ์เช่นเดียวกัน ด้วยงบลงทุนอีก 5-10 ล้านบาท เพื่อผลิตพายป้อนให้กับเซเว่นฯ
คาดว่าจะเปิดทำการผลิตได้ในเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการลงทุนสร้างโรงงานผลิตเค้ก ด้วยเงินลงทุนอีก 5-10 ล้านบาทเพื่อป้อนให้กับเซเว่นฯ และร้านสาขา โดยจะเริ่มทำการผลิตได้ในเดือนกรกฎาคมนี้เช่นกัน
“เป้าหมายคือต้องการเพิ่มกำลังการผลิตพายและขนมเปี๊ยะเพื่อจำหน่ายในเซเว่นฯ ให้ได้ 3 แสนชิ้นต่อวัน จากปัจจุบันที่ผลิตได้ 2 แสนชิ้นต่อวัน การลงทุนครั้งนี้จะรองรับการขยายตลาดในต่างประเทศด้วย”
ด้านแผนการทำตลาดในประเทศ จะเน้นการพัฒนาเมนูใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าในร้านสาขา อาทิ เค้กมะพร้าว , เปี๊ยะสวรรค์, ไดฟูกุ นูเทลล่า ฯลฯ และเมนูใหม่สำหรับร้านเซเว่นฯ ซึ่งล่าสุดวางจำหน่าย เปี๊ยะโมจิลาวาไข่เค็ม ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก มียอดขายกว่า 40 ล้านบาทใน 3 เดือนแรก
นอกจากนี้ยังแตกไลน์สินค้าไปยังกลุ่มน้ำยำ และน้ำปลาร้าสำเร็จรูป วางจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ ด้วย รวมทั้งมีแผนขยายช่องทางจำหน่ายให้หลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ทั้งไลน์แมน, แกร็บ ฯลฯ
“ในปีที่ผ่านมาแม้จะเกิดวิกฤตโควิด-19 แต่เอพริล เบเกอรี่ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีการเติบโตกว่า 200% ขณะที่ในไตรมาสแรกที่ผ่านมามียอดขายเติบโตกว่า 300% โดยตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค. สามารถทำยอดขายได้กว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมียอดขายรวม 450-460 ล้านบาท โดย 400 ล้านบาทเป็นยอดขายในเซเว่น อีเลฟเว่น”
นางกนกกัญจน์ กล่าวอีกว่า ในปีหน้าบริษัทจะมุ่งขยายตลาดต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะออกงานแสดงสินค้าเทรดแฟร์ ทั้งในเกาหลี จีนและฝรั่งเศส เพราะปัจจุบันสินค้าของบริษัทสามารถฟรีซและมีอายุยาวนานถึง 6 เดือนสามารถส่งออกและจำหน่ายได้โดยรสชาติยังคงเดิม
ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าส่งออกไปจำหน่ายบ้างแล้วในยุโรป ผ่านตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) โดยในอนาคตบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายรูปแบบการจำหน่ายทั้งจำหน่ายผ่านดีลเลอร์, มาสเตอร์ แฟรนไชส์ และการขายปลีก (ในซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบที่เหมาะสมในแต่ละประเทศ
นอกจากนี้บริษัทยังรับจ้างผลิต (OEM) ป้อนให้กับร้านกาแฟต่างๆอีกกว่า 200 สาขา ทั้งนี้เพื่อเป็นการบาลานซ์ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากร้านค้าในช่องทางใดช่องทางหนึ่งต้องหยุดไป และสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรเพื่อรองรับการเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายให้ได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 42 ฉบับที่ 3,791 วันที่ 12 -15 มิถุนายน พ.ศ. 2565