นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า สถานะกัญชา ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เป็นสมุนไพรที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัย และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และเศรษฐกิจชุมชน
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ทำความเข้าใจเพิ่มเติมกับประชาชนเกี่ยวกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ แต่มีบางกลุ่มที่ไม่ใส่ใจ แสวงหาผลประโยชน์แบบผิดกฎหมาย
ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ประกาศฉบับดังกล่าวได้มีสาระสำคัญแฝงอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.คุ้มครองกลุ่มเปราะบาง ไม่ให้เข้าถึงกัญชา กัญชง สารสกัด ไม่ว่าจะมีใบอนุญาตหรือไม่มีใบอนุญาต ห้ามขายให้บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี, สตรีมีครรภ์, สตรีให้นมบุตร
2. เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแพทย์แผนไทยแพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้องค์ความรู้ จากกัญชาอย่างกว้างขวาง
และ 3.ผู้ป่วยสามารถนำมากัญชามาใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพตามวัยอย่างปลอดภัยและเหมาะสมตามประกาศดังกล่าว จะสอดคล้องกับมาตรา 46 ที่อยู่ในพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542
เนื่องจากการศึกษา วิจัยและพัฒนา ถือเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ประโยชน์ ที่ได้รับการอนุญาตไปแล้ว ไม่มีเจตนารมณ์ที่จะไปดำเนินการทางกฎหมายกับประชาชนโดยทั่วไป ที่มีกัญชาไว้ในครอบครองหรือนำมาใช้ประโยชน์ หากไม่ดำเนินการที่ขัดกับประกาศดังกล่าว
"กัญชาถือเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าควรแก่การคุ้มครองไม่ให้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดจนเกิดความเสียหายกับคุณค่าของสมุนไพรดังกล่าว และไม่ต้องการที่จับกัญชามาขังกรงอีกต่อไป ล่าสุด กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้จัดทำหนังสือชุดตำราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ ตำรับยาแผนไทยของชาติที่เข้าตัวยากัญชา ฉบับแรกของประเทศไทย ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก"