นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ชี้แจงถึงความล่าช้าในการเคลื่อนย้ายเครื่องบินนกแอร์ ที่ทำให้ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต้องปิดรันเวย์อีก 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-3 สิงหาคมนี้ ว่า หลังจากคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน(กสอ.) ดำเนินการเสร็จแล้ว ทางสายการบิน( airline ) จะเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ที่ มี licence (ใบอนุญาต) ของเครื่องบินรุ่นนั้นๆ เข้ากู้เครื่องต่อไป
เนื่องจากถ้าไม่มี licence ทางประกันอาจจะไม่จ่ายและหาก airline กู้ไม่ได้ จะขอความช่วยเหลือจากทอท.ต่อไป อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้รับความกรุณาจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) นำอุปกรณ์กู้มาเตรียมพร้อมไว้แล้ว
สำหรับกระบวนการที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายหลังจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน
1. พิทักษ์อากาศยาน ( aircraft custody ) โดย ท่าอากาศยาน ไม่ให้ผู้ใดไปยุ่งกับหลักฐานหรืออากาศยาน นักบินก็กลับขึ้นไปบนเครื่องไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุ ของรัฐ ( กสอ )
2. แจ้งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุอากาศยาน ( กสอ ) ให้ทราบเพื่อเข้ามาสอบสวน
3. สนามบินเก็บหลักฐานเบื้องต้นอย่างละเอียด สำรวจพื้นที่ตำแหน่งที่ไถลออก ร่องรอยล้อ สภาพพื้นผิว ความเสียหายของกายภาพและเครื่องช่วยในการเดินอากาศ
4. การเคลื่อนย้ายอากาศยานเป็นหน้าที่ของเจ้าของหรือผู้จดทะเบียนอากาศยานโดยตรงตามกฎหมายกำหนดใน พรบ เดินอากาศ 2497 และตามข้อกำหนด icao doc 9137 part 5 removal of disable aircraft นอกจ้างผู้ดำเนินการเดินอากาศดังกล่าวทำไม่ได้ ให้ร้องขอจากสนามบินให้ช่วยดำเนินการ
5. ก่อนการเคลื่อนย้ายอากาศยาน ต้องได้รับการอนุญาตจาก กสอ ที่เข้ามาสอบสวน พิจารณาปลดพิทักษ์ให้ก่อน ไม่ว่าปลดพิทักษ์ชั่วคราวหรือถาวร ถึงจะดำเนินการเข้าไปจัดการกับหลักฐานใดๆได้
6. สนามบินต้องเตรียมพื้นที่รองรับอากาศยานที่เคลื่อนย้าย เพื่อไปพิทักษ์ต่อในการสอบสอบให้สมบูรณ์
7. สนามบินสำรวจความเสียหาย ซ่อมแซมให้พร้อมการใช้งานทางวิ่ง และสิ่งอำนวยความสะดวก ส่งหลักฐานขอความเห็นชอบสำนักงานการบินพลเรือน ก่อนเปิดใช้งาน