นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า “เรามุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องกับการตอบโจทย์ลูกค้าเป็นหลักผ่านการศึกษารูปแบบการใช้ชีวิตคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เน้นเรื่องสุขภาพและใช้ชีวิตวิถีใหม่ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการระบาดอย่างเคร่งครัด
โดยล่าสุดเราเปิด “บิ๊กซี ฟู้ดเพลส สาขาที่ 11 ” ณ อาคารเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ สำนักงานใหญ่ สุขุมวิท 42 สาขาที่ 11 ที่พร้อมบริการลูกค้าคนเมือง พนักงานออฟฟิศ กลุ่มคอนโดและโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เลือกซื้อสินค้าที่คุณภาพเหมาะสมกับราคา และยอมจ่ายเมื่อมองว่าสินค้ามีคุณภาพเหมาะกับไลฟ์สไตล์”
โดยชูจุดเด่นสำคัญคือการเป็น “Healthy Food O2O Store” ที่เน้นสินค้ากลุ่มอาหารดูแลสุขภาพเป็นสำคัญ ทั้งอาหารพร้อมทานและอาหารออร์แกนิค นำสินค้ามีคุณภาพราคาคุ้มค่าเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และจุดแข็งที่เราทำได้ดีคือบริการด้วยการจัดส่งสินค้าฟรีถึงที่พักหรือที่ทำงานแบบทันใจอีกด้วย ไม่ว่าจะสั่งผ่านไลน์ โทรมาสั่ง พร้อมบริการจัดส่งไปถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน บิ๊กซี ฟู้ดเพลส (Big C Food Place) มี 11 สาขา บริษัทยังมีแผนการขยายสาขาใหม่อีก 3-5 สาขาภายในปีนี้เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น และ บิ๊กซี ในแต่ละรูปแบบจะปรับให้สอดคล้องกับทำเลและความต้องการของผู้บริโภคในเขตพื้นที่นั้นๆ ทั้งนี้ บิ๊กซี ไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพการบริการ ปรับประเภทของสินค้าและราคาเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นพัฒนาบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมของลูกค้าในอนาคต