รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการพิจารณาวาระลับ เป็นเอกสารแจกและเก็บในที่ประชุม โดยได้เห็นชอบกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับการบริหารงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวม 2 ฉบับ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอ
สำหรับกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ประกอบด้วย
สาระสำคัญของกฎหมาย ฉบับแรก คือ ร่าง พ.ร.ฎ. ได้กำหนดให้ยกเลิก พ.ร.ฎ.ฉบับเดิม คือ พ.ร.ฎ.เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ที่มีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้ วงเงินไม่เกิน 150,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากครม. แล้ว และเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา
ต่อมาคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจร่างกฎหมาย และได้แก้ไขชื่อของกฎหมายใหม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น โดยให้เพิ่มกรอบวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมเข้ามา โดยมีรายละเอีดดังนี้
พร้อมทั้งเพิ่มบทบัญญัติกำหนดให้การเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกองทุนฯ และกรอบวงเงินกู้ตามร่าง พ.ร.ฎ.นี้ มีผลใช้บังคับ 1 ปี และเมื่อครบกำหนดก็ให้ยกเลิก โดยให้กรอบวงเงินกองทุนฯ และกรอบวงเงินกู้เป็นไปตามที่กำหนดในมาตรา 26
เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า การเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินครั้งนี้ เป็นไปตามความจำเป็นเฉพาะกรณีการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงในครั้งนี้ ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวตามความจำเป็นของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้กระทบกับวงเงินกองทุนในการบริหารกิจการตามปกติ ยังกำหนดไม่ให้นำวงเงินที่กระทรวงการคลังค้ำประกันตาม ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... มานับรวมกับกรอบวงเงินกองทุนและกรอบวงเงินกู้ตามมาตรา 26 ที่ใช้บังคับภายหลังที่ร่าง พ.ร.ฎ.นี้ ถูกยกเลิก
ส่วนอีกฉบับ คือ ร่าง พ.ร.ก.ผ่อนผันฯ นั้น ได้ปรับแก้รายละเอียดใหม่ จากร่างกฎหมายเดิมที่ระบุสาระสำคัญว่า ให้อำนาจกระทรวงการคลัง ค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่เกินวงเงิน 150,000 ล้านบาท และต้องไม่เกินกรอบหนี้สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ
โดยให้ลงนามในสัญญาค้ำประกันภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่พ.ร.ก.นี้ใช้บังคับ ทั้งนี้ในการชำระหนี้ที่มีการกู้ยืม ให้ สำนักงานฯ เป็นผู้ชำระหนี้ โดยจะนำเงินงบประมาณมาใช้ในการชำระหนี้กู้ยืมดังกล่าวไม่ได้ และให้ถือว่าการค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานฯ โดยกระทรวงการคลัง ค้ำประกันการชำระหนี้ตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ
ทั้งนี้ตามร่าง พ.ร.ก.ผ่อนผันฯ ฉบับใหม่ที่เสนอเข้ามาได้ปรับเปลี่ยนสาระสำคัญ เป็นการให้อำนาจกระทรวงการคลังโดยอนุมัติของครม. ค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานฯ ตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ในกรณีที่มีวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยให้ลงนามในสัญญาค้ำประกันภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่พระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ และต้องมีวงเงินรวมไม่เกิน 150,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้กำหนดให้สำนักงานกองทุนฯ มีหน้าที่ชำระคืน จนครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ กระทรวงการคลังกำหนดโดยความเห็นชอบของครม.