หลังจากที่ประชุมครม. ครั้งล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการให้ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
โดยมอบหมายให้เตรียมความพร้อมด้านของงบประมาณ เบื้องต้นน่าจะใช้เงินประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งการดำเนินการเยียวยาขั้นต้น จะเป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องนั้น
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ระบุว่า ในการประชุมครม. ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณจัดทำประมาณการวงเงินงบประมาณเบื้องต้น ที่จะใช้ในการเยียวยาประชาชนที่เจอน้ำท่วมในหลายจังหวัด รวมถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม และมาตรการอื่น ๆ ที่จะดำเนินการในช่วงปลายปี
สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านงบประมาณ ตามที่คุยในที่ประชุม ครม. ซึ่งกันงบเอาไว้ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นแบ่งเป็นการดำเนินการส่วนต่าง ๆ ดังนี้
1.การเยียวยาประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วม
* วงเงินเยียวยาอุทกภัยในส่วนนี้ยังไม่ได้รวมในส่วนการชดเชยเกษตรกรที่พืชผลและปศุสัตว์เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งการช่วยเหลือดังกล่าวและการช่วยเหลือเพิ่มเติมในส่วนนี้จะมีการสำรวจความเสียหายอีกครั้งหลายน้ำลดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย
2.การฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงปลายปี หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว
นายเฉลิมพล กล่าวว่า การที่ตั้งงบประมาณสำหรับน้ำท่วมที่จะใช้งบกลางฯไม่สูงมากเนื่องจากตอนนี้ยังเป็นช่วงต้นปีงบประมาณที่กระทรวงต่าง ๆ สามารถโยกงบประมาณหรือเปลี่ยนแปลงโครงการ เพื่อมาใช้ในการซ่อมแซมถนน สะพาน หรือโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายจากน้ำท่วมได้ และสำนักงบประมาณได้หารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้มีการจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ไว้บางส่วนอยู่แล้ว
“ในปี 2566 รัฐบาลมีงบกลางรายการใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นกรณีเร่งด่วน รวมประมาณ 9.24 หมื่นล้านบาท โดยปกติแล้วจะมีการใช้วงเงินเพื่อเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมประมาณปีละ 2 – 3 หมื่นล้านบาท” ผอ.สำนักงบฯ ระบุ