เปิดชื่อ 5 ประเทศยื่นขอวีซ่า LTR Visa ขออยู่ประเทศไทยยาว

27 ต.ค. 2565 | 02:26 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2565 | 09:34 น.

เปิดรายชื่อ 5 ประเทศ ยื่นขอใบสมัครวีซ่าระยะยาว LTR Visa ขออยู่ประเทศไทย ทั้งมาพำนัก และลงทุน หลัง BOI รายงานตัวเลขล่าสุด 1 ก.ย. - 20 ต.ค. 2565 มีผู้สมัครกว่าพันคน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้รายงานตัวเลขผู้ขอยื่นขอใบสมัครวีซ่าระยะยาว (Long – Term Resident Visa) หรือ “LTR Visa” ของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 20 ตุลาคม 2565 มีผู้สมัครกว่า 1,000 คน 

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมการลงทุนโดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ด้วยความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพ น่าลงทุน และเป็นที่นิยม 

 

โดยถือเป็นเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ให้วีซ่าระยะยาว หรือ “LTR Visa” แก่ชาวต่างชาติมีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม พำนักในประเทศไทยในระยะยาว โดยมีเป้าหมายดึงดูด 1 ล้านคน ใน 5 ปี โดยได้เริ่มรับสมัครชาวต่างชาติในกลุ่มนี้แล้วเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ผู้ที่ขอ LTR Visa สามารถแบ่งตามกลุ่มได้ดังนี้ 

  • กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy Global Citizens) มีผู้ยื่นใบสมัครแล้ว 88 คน คิดเป็น 8% 
  • ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy Pensioner) มีผู้สมัครเข้ามาแล้ว 430 คน คิดเป็น 37% 
  • ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work from Thailand) มีผู้สมัครเข้ามาแล้ว 366 คน คิดเป็น 32% 
  • ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (Highly Skilled Professionals) มีผู้สมัครมาแล้ว 160 คน คิดเป็น 14% 
  • ที่เหลือเป็นกลุ่มของคู่สมรส และบุตรของผู้ที่ต้องการทำงานและพำนักอาศัยระยะยาวในประเทศไทย มีผู้สมัครเข้ามาแล้ว 144 คน คิดเป็น 14%

สำหรับ 5 ประเทศที่มีการยื่นขอใบสมัคร LTR Visa มากที่สุด ได้แก่ 

  • สหรัฐฯ 232 ราย 
  • จีน 140 ราย 
  • สหราชอาณาจักร 109 ราย 
  • เยอรมนี 68 ราย 
  • ออสเตรเลีย 51 ราย 

 

“นายกรัฐมนตรีใช้ความได้เปรียบของประเทศ ดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพในหลากหลายกลุ่ม โดยมุ่งหวังว่าจะกระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุน ช่วยผลักดันความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัว โดยวีซ่าประเภทใหม่นี้จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดึงดูดกลุ่มนักลงทุน ผู้มีความพร้อม มีทักษะ และความเชี่ยวชาญสูงให้เข้ามาพำนักในประเทศไทย” นายอนุชา กล่าว