นักวิชาการจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกับนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนได้ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านรัฐบาล ที่จะนำเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ที่ดูแลอยู่โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ไปจ่ายซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 วงเงินที่ประมาณการกันสูงถึง 1,600 ล้านบาท
ที่ผ่านมา กสทช. เคยให้การสนับสนุนเงินจากกองทุน กทปส. จำนวน 240 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้การกีฬาแห่งประเทศไทยซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการกีฬาโอลิมปิกตลอดจนเอเชียนเกมส์ จำนวน 5 รายการ ให้เหตุผลสนับสนุนว่าเป็นรายการที่มีความหลากหลายของชนิดกีฬา และมีหลายชนิดกีฬาที่ คนไทยเข้าร่วมแข่งขัน
นัยยะที่ส่งมาจากการจ่ายเงินก้อนนี้ของกทปส. รอบนี้ เพื่อสนับสนุนถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก อาจไม่ตรงวัตถุประสงค์ แม้จะมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกระจายเสียง และโทรทัศน์ ที่มุ่งหมายให้ประชาชนคนไทยได้รับชมรายการกีฬาฟุตบอล แต่ก็เป็นประเภทกีฬาเฉพาะกลุ่มที่มีคนไทยให้ความสนใจจำนวนกลุ่มหนึ่ง และคนไทยไม่ได้มีส่วนร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้ จึงมิได้มีลักษณะที่เข้าข่ายตามวัตถุประสงค์ของกองทุน กทปส. ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง
ตลอดจนการตั้งคำถามถึง งบกองทุนเหลืออยู่ประมาณ 2 พันล้านบาท หากนำไปใช้การนี้ จะพร่องลงไปอีก ขณะที่ความต้องการใช้เงินก้อนนี้ ยังมีอีกมากที่จำเป็นและการใช้ไปจำนวนที่ว่าจะกระทบสภาพคล่องกองทุนได้ และจะส่งผลกระทบสำคัญต่อโอกาสในการเข้าถึงบริการของกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของคนไทยในวงกว้าง เกิดการหยุดชะงักของการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรสื่อสารของประเทศ กระทบอย่างต่อเนื่องต่อการขาดโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมในภาพรวมได้
ข้อคัดค้านสอดรับกับความเห็น ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอที่นอกจากขัดวัตถุประสงค์ของกองทุนแล้ว ยังชี้ปมปัญหาที่กฎ Must Have กำหนด 7 มหกรรมกีฬา อย่างโอลิมปิก เอเชียนเกมส์ ซีเกมส์ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ต้องถ่ายทอดทางฟรีทีวี ทำให้เพย์ทีวีไม่อยากไปซื้อลิขสิทธิ์ เพราะซื้อมาก็ต้องให้ฟรีทีวีเอาไปถ่ายทอดต่อฟรีๆ ขณะที่กลุ่มฟรีทีวีไม่อยากไปซื้อลิขสิทธิ์ เพราะซื้อมาก็ต้องให้เพย์ทีวีเอาไปถ่ายทอดต่อฟรีตามกฎ Must Carry ที่กำหนดขึ้นโดยกสทช.เมื่อมีกฎนี้ออกมาทำให้กลไกทุกอย่างไม่ได้เดินตามปกติ
ข้อคัดค้านของนักวิชาการด้านสื่อและทีดีอาร์ไอ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับฟังและไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนในการนำเงินจากกองทุนกทปส.ไปใช้ซึ่งอาจผิดวัตถุประสงค์กองทุน โดยอาจต้องพิจารณางบประมาณจากแหล่งอื่น หรือแนวทางอื่น ขณะที่กสทช.จำต้องทบทวนกฎ Must Have กฎ Must Carry เพื่อให้กลไกการทำงานการกระจายภาพ เสียง ในเรื่องสำคัญๆกลับมาเดินได้อย่างปกติ