ดร. เอกพล ณ สงขลา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2566 เป็นอีกปีหนึ่งที่ท้าทายของกลุ่มไทยเบฟ จากเป้าหมายที่ชัดเจนขององค์กร ในการเดินสู่องค์กรที่มีการเติบโตระดับอาเซียน มีการขยายธุรกิจใหม่ๆ ไปในพื้นที่ใหม่ๆ ภายใต้การเป็นผู้นำที่มั่นคงและยั่งยืนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับอาเซียน ด้านบุคลากรจึงต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือกับการเติบโตของธุรกิจในหลากหลายสาขา พร้อมกับการเปิดรับพนักงานใหม่ๆ เข้าร่วมงานอีกกว่า 2,000 คน และยังมีโครงการภายใน ที่เปิดให้พนักงาน 200 คน เข้ารับตำแหน่งที่สำคัญ รองรับการเติบโตไปในสายงานใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น
การขยายตัวในระดับอาเซียนของไทยเบฟ นอกจากการควบรวมกิจการและขยายธุรกิจไปในประเทศต่างๆ 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ มาเลเซีย ดังนั้น ด้านบุคลากรก็ต้องมีความเชื่อมโยง มีการร่วมมือ (collaborate) การทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่
กลุ่มไทยเบฟ แบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ คือ สุรา เบียร์ กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร ภายใต้การทำงานของ 6 กลุ่มงานกลาง ประกอบด้วย 1. กลุ่ม Sustainability and Strategy ความยั่งยืนและกลยุทธ์ 2.กลุ่ม Brand and Commercial 3.กลุ่ม Digital and Technology 4. กลุ่ม Human Capital and Organization Capabilities 5. กลุ่ม Finance and Accounting และ 6.กลุ่ม Corporate Affairs and Governance
"กลุ่มงานเหล่านี้ มีการทำงานเป็นทีม ที่ประสานกันในทุกๆ ประเทศ เพื่อให้ทุกประเทศสามารถเดินหน้าไปด้วยกัน"
ด้วยวิชั่นขององค์กรที่จะเป็น Stable and Sustainable ASEAN Leader ภายใต้ “PASSION 2025” ของ ไทยเบฟ การที่จะทำให้ไทยเบฟเติบโตได้ พนักงานก็ต้องเติบโตด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงต้องมีการสร้างความเข้าใจ และมีความตื่นตัว พร้อมที่จะพัฒนาตัวเอง มีการแลกเปลี่ยน เพื่อการเติบโตก้าวหน้าของพนักงานทั้งในระดับท้องถิ่น ประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งจะสร้างเสริมให้พนักงานมีความเจริญก้าวหน้า หร้อมๆ กับผลักดันองค์กรให้เติบโต
กุญแจแห่งความสำเร็จของไทยเบฟ คือพันธกิจ "การสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต" ด้วยปรัชญา "โอกาสไร้ขีดจำกัด" โดยบริษัทมุ่งหวังการสร้างคุณค่า โอกาสไร้ขีดจำกัด ทั้งการเติบโตในสายอาชีพ การสร้างความสัมพันธ์ และการดูแลสังคม ซึ่งสอดรับกับความต้องการของกลุ่มนิวเจน
สำหรับสายงานหลักที่กลุ่มไทยเบฟต้องการ จะเป็นบุคลากรที่เข้ามาเติมเต็มด้านการขาย การบริการลูกค้า การขายในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อรองรับงานขายในด้านต่างๆ รวมถึงผู้มีทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญ คือ การมี mindset ด้านการเติบโต และมองหาโอกาสในการเติบโตทั้งของตัวเองและธุรกิจ รวมถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับคนอื่น (collaborate)
ส่วนทีมงานปัจจุบัน สิ่งที่ไทยเบฟเร่งปลูกฝัง คือ การสร้างทักษะและ Mindset ที่พร้อมสำหรับการทำงานและการเติบโต โดยเฉพาะ Transformation Mindset คือ ยินดีที่จะเปลี่ยน และ Expanded Mindset กระหายที่จะเติบโต
เครื่องมือสำคัญที่กลุ่มไทยเบฟ ใช้ในการขับเคลื่อนทีมงาน คือ การเปิดโอกาสให้เขาได้ลงมือทำงานจริง ได้เรียนรู้จากการลงมือทำ พร้อมๆ กับการจัดคอร์สอบรมในหลากหลายสาขาสายงาน
ดร.เอกพล กล่าวว่า ไทยเบฟมีจุดแข็งที่ตัวธุรกิจที่มีความหลากหลายและมีแบรนด์ที่น่าสนใจ รวมทั้งมีโอกาสในการเติบโตให้กับพนักงานได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ทำให้คนทำงานสามารถพัฒนาศักยภาพของเขาได้เต็มที่ โดยผู้บริหารพร้อมเปิดรับฟัง และเปิดโอกาสให้พนักงาน แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่อายุงานไม่มาก ก็สามารถได้ทำโปรเจคดีๆ ที่น่าสนใจ
"เราเร่งสร้างประสิทธิผลและประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี และเป็นนายจ้างที่ดีที่สุดในอาเซียน โดยต้องการคะแนนความผูกพันขององค์กรกับพนักงาน 90% ขึ้นไป จากตอนนี้เราอยู่ที่ 80% ซึ่งเป็นผลจากช่วงวิกฤตโควิด -19 ที่ผ่านมา ที่คนทำงานมีความต้องการที่เปลี่ยนไป มีความคิดที่เปลี่ยนไปจากเดิม เราเคยแตะ 85% เป็นช่วงกลางๆ ของโควิด ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตของทั่วโลก...ถือเป็นความท้าทายมากๆ"