ดีเดย์ 10 ม.ค.66 เริ่มใช้กฎหมายคุมสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์

09 ม.ค. 2566 | 01:56 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ม.ค. 2566 | 09:08 น.

กฎหมายคุมสัญญาธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เริ่มต้นมีผลบังคับใช้แล้ว เพื่อดูแลธุรกิจลิสซิ่ง ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 เป็นต้นไป เช็ครายละเอียดกฎหมาย รวมไว้ที่นี่ครบ

หลังจากพยายามอยู่นานสำหรับการควบคุมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ล่าสุดประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565 ซึ่งดูแลโดย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

 

ที่ผ่านมาการดำเนินการดังกล่าว เกิดประเด็นข้อถกเถียงหลายฝ่าย โดยเฉพาะทางผู้ประกอบธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบจากการควบคุมจากภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องของการกำหนดกรอบอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปและสามารถประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายแล้ว

 

สำหรับประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเพื่อคุมสัญญาธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จะบังคับใช้เฉพาะสัญญาเช่าซื้อรถ ที่ทำตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ส่วนสัญญาเช่าซื้อที่มีการทำสัญญาก่อนวันที่ 10 มกราคม 2566 ยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญา

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ภาพประกอบข่าวประกาศคุมสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์

สำหรับการควบคุมสัญญาธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีรายละเอียดดังนี้ 

 

1.การกำหนดกรอบอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ มี 3 ประเภท 

  • รถยนต์ใหม่ต้องไม่เกินอัตรา 10% ต่อปี
  • รถยนต์ใช้แล้ว ต้องไม่เกินอัตรา 15% ต่อปี 
  • รถจักรยานยนต์ต้องไม่เกิน 23% ต่อปี

 

2.การนำเงินมาชำระค่างวดครบก่อนกำหนด (ปิดบัญชี) จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย ในการปิดค่างวดเป็นขั้นบันได มี 3 กรณี ดังนี้ 

  • การชำระค่างวด ไม่เกิน 1 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับส่วนลด ไม่น้อยกว่า 60% ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ 
  • การชำระค่างวด ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับส่วนลด ไม่น้อยกว่า 70% ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ 
  • การชำระค่างวด เกินกว่า 2 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับ ส่วนลดทั้งหมด ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ

 

3.กรณีนำรถออกขายทอดตลาด เมื่อผู้บริโภคถูกยกเลิกสัญญา และผู้ให้เช่าซื้อได้นำรถออกขายทอดตลาด ตามปกติ ผู้บริโภคต้องรับผิดชอบค่างวดที่ค้างอยู่ตามสัญญา ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ โดยกฎหมายนี้ให้คิดได้เฉพาะเงินต้นเท่านั้น

 

ภาพประกอบข่าวประกาศคุมสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์

4.การคิดเบี้ยปรับในการผิดนัดชำระ กรณีผู้บริโภคชำระค่างวดล่าช้า หรือผิดนัดชำระค่างวด ผู้ให้เช่าซื้อคิดเบี้ยปรับได้ไม่เกิน 5% ต่อปีโดยคำนวณจากยอดเงินที่ผิดนัดชำระ 

 

5.ส่วนอัตราโทษ หากผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และจักรยานยนต์ ทำผิดสัญญาตามประกาศจะมีโทษดังนี้

  • ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

คลิกอ่าน “ประกาศคุมสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ฉบับเต็ม”

 

ภาพประกอบข่าวประกาศคุมสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเชิงรุก เพื่อช่วยผู้บริโภคที่ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และได้รับความเดือดร้อน