ควันหลงหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทิ้งทวนการตั้งงบก้อนมหึมา กว่า 3 แสนล้านบาท หลังจาก 14 กระทรวง เสนอการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไปเอาไว้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 26 ของพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ ปี 2561 ส่งมาให้ครม.เห็นชอบ
ภายใต้ข้อเสนอตั้งงบประมาณจองเอาไว้ข้ามปี มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจเสนอเข้ามา โดย กระทรวงยุติธรรม เสนอขอตั้งงบไว้จำนวน 3 โครงการ วงเงินรวม 5,004.18 ล้านบาท เพื่อขอก่อสร้างเรือนจำ พร้อมสิ่งประกอบ ดังนี้
เหตุผลและความจำเป็นการสร้างเรือนจำใหม่
ที่ผ่านมาเรือนจำทั้ง 3 แห่ง มีอายุการใช้งานมานาน คือ เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ อายุ 91 ปี เรือนจำจังหวัดชัยนาท 112 ปี และเรือนจำจังหวัดยโสธร 84 ปี และมีพื้นที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งอาคารสถานที่สำหรับควบคุมตัวและจัดกิจกรรมในการแก้ไขฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังมีสภาพเก่า และขาดความมั่นคงปลอดภัย
ประกอบกับพื้นที่ภายในมีความแออัด คับแคบ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้การที่เรือนจำตั้งอยู่ในใจกลางเมืองยังก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแก่ชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะด้านการสุขาภิบาล เช่น การบำบัดน้ำเสีย อันเป็นสาเหตุให้เรือนจำถูกร้องเรียน รวมทั้งปัจจุบันเรือนจำทั้ง 3 แห่ง มีจำนวนผู้ต้องขังเกินกว่า ความจุมาตรฐานที่เรือนจำรองรับได้ ดังนี้
รายละเอียดการสร้างเรือนจำใหม่
กระทรวงยุติธรรม รายงานว่า เพื่อเป็นการก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ที่มีอาคารและส่วนประกอบที่ได้มาตรฐานทดแทนเรือนจำเดิม โดยสามารถควบคุมและป้องกันการหลบหนีได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีพื้นที่ซึ่งเอื้อต่อการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในด้านการฟื้นฟูและพัฒนาพฤตินิสัยอย่างเป็นสัดส่วนตามหลักสากล โดยมีรายละเอียดของสถานที่สรุปได้ ดังนี้
ประโยชน์ของการสร้างเรือนจำ
โครงการก่อสร้างเรือนจำฯ แห่งใหม่ ทั้ง 5 แห่งด้วยการตั้งงบประมาณเอาไว้กว่า 5 พันล้านบาท กระทรวงยุติธรรม แจ้งว่า จะก่อให้เกิดประโยชน์ ดังข้อมูลต่อไปนี้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรม ได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับ การขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามนัยมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เรียบร้อยแล้ว และที่ผ่านมาได้มีการจัดทำประชาพิจารณ์และประชาชนในพื้นที่ได้เห็นชอบแล้ว