จากกรณีประเด็นร้อนการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่ประตูสนามบิน โดยมีการอ้างถึงขบวนการนายหน้าในประเทศจีนดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มจีนสีเทาสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยใช้สิทธิประโยชน์ของการถือบัตร "อีลิทการ์ด" หรือ Thailand Elite Card
ออกโดย บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครบัตรที่สูงกว่าค่าสมัครที่ทางบริษัทฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถสมัครบัตรผ่านได้โดยไม่ต้องตรวจประวัติอาชญากร
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า เรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ พร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายสืบสวนเข้าไปการตรวจสอบอย่างเต็มที่ หากพบความผิดพลาดหรือจุดที่เป็นช่องโหว่ในเงื่อนไขของการรับสมัคร ก็พร้อมเร่งปรับปรุง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในแนวทางการปฏิบัติต่อไป
อย่างไรก็ตามหากพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจะเร่งดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ล่าสุดได้สั่งการไปยังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คอยติดตามข้อมูลความเห็นและคำสนทนาจากสื่อสังคมออนไลน์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผลกระทบด้านลบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทยด้วย
“กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบ เช่น ตรวจสอบสถานะ บริษัทผู้แทนจำหน่าย หรือเอเจ้นท์ เช็คสถานภาพผู้ถือบัตรทุก ๆ 2 ปี หากใครทำการใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย หรือ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม จนมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยเฉพาะการใช้สิทธิประโยชน์โดยทุจริต ไม่ทำตามเงื่อนไขของการเป็นสมาชิก จะเพิกถอนสมาชิกโดยทันที”
ทั้งนี้ กระทรวงฯ จำเป็นต้องเร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ รวมถึงบริหารจัดการความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการพัฒนาและปรับรูปแบบการให้บริการภายใต้กฎระเบียบ โดยดูจากกรณีศึกษาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อโอกาสทางการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูง (High Spending) ต่อไป
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปตำรวจไทยอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษนักท่องเที่ยวต่างชาติ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และสร้างความไม่สบายใจต่อประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมากนั้น รมว.การท่องเที่ยวฯ ยอมรับว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีเพียงเจ้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 2 คนเท่านั้น ที่เข้าไปดำเนินการโดยพลการ และไม่ได้ขออนุญาตจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
ทั้งนี้ยืนยันว่า การขอใช้รถนำขบวนได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลสำคัญ เช่น แขกของรัฐบาล ผู้นำรัฐบาลที่เข้ามาเป็นการส่วนตัว หรือราชวงศ์ของประเทศต่างๆ ที่เข้ามาประเทศไทยและหากต้องการขอดูแลความปลอดภัย อารักขาบุคคลสำคัญและอำนวยความสะดวกตามจำเป็นแก่กรณี
โดยต้องทำหนังสือเป็นทางการมาที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์โดยรถบัสหลายคัน หรือรถเล็กที่แข่งแรลลี่รวมถึงบิ๊กไบค์ที่มาเป็นขบวน หากมีการขออนุเคราะห์ เพื่อขอความปลอดภัย ก็สามารถขอรถนำขบวนจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ทันที
รู้จักบัตรอีลิทการ์ด หรือ Thailand Elite Card
บัตรสมาชิกพิเศษ "ไทยแลน ทวิเลจ คาร์ด” หรือ Thailand Elite Card ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ขยายตลาดนักท่องเที่ยวไปยังกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูง และกระตุ้นให้เกิดอุปสงค์ในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย เพิ่มขึ้น
ขั้นตอนการสมัครสมาชิกนั้น ทางบริษัทมีระบบการสมัครและการตรวจสอบประวัติก่อนออกบัตรอย่างละเอียด ตั้งแต่ผู้สมัครยื่นเอกสารการสมัครมายังบริษัทฯ จะมีการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร จากนั้นจะทำการส่งพาสปอร์ตต่อให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ กรมการกงสุล ตรวจสอบประวัติต่อไป
ส่วนระยะเวลาการสมัครจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับความครบถ้วน ของเอกสาร สัญชาติ และระยะเวลาอนุมัติคุณสมบัติจากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ กรมการกงสุล (ทั้งนี้อาจจะเร็วกว่า 2 เดือน หากเอกสารสมบูรณ์ครบถ้วนไม่พบปัญหาใดๆ)
สมาชิกบัตร Thailand Elite Card ทุกราย จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนภายใต้กฎหมายคนเข้าเมืองของไทยอย่างเคร่งครัด สมาชิกบัตร จะได้รับวีซ่าเข้าประเทศแบบ Privilege Entry Visa (PE) ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้ 1 ปีต่อครั้ง
สมาชิกทุกรายจะต้องรายงานตัวทุก 90 วัน การรายงานนี้เป็นภาคบังคับ กรณีสมาชิกไม่ได้เดินทางออก นอกประเทศ แต่หากสมาชิกมีการเดินทางออกนอกประเทศไทยก่อนกำหนด ก็ไม่ต้องรายงานตัวเป็นเวลา 90 วัน สำหรับสมาชิกที่อาศัยอยู่นอกกรุงเทพฯ ก็ให้ติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่