ต่อมาในปี 2542 นายวิกรม กรมดิษฐ์ ได้ยื่นคําร้องขอจดทะเบียนแก้ไขวัตถุประสงค์ของ"มูลนิธิอมตะ" ใหม่ ดังนี้
เพื่ออนุรักษ์สัตว์ป่า
เพื่อส่งเสริมการปลูกป่าและรักษาธรรมชาติ
เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา
เพื่อส่งเสริมรักษาศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไทย
เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการกีฬา
ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
โลโก้ "มูลนิธิอมตะ"
เป็นรูปเส้นขีดแนวนอนห้าเส้นเรียงต่อกันตามขนาดความยาวน้อยไปมากและซ้ายไปขวา มีตัวภาษาอังกฤษอยู่บนรูปเขียนว่า AMATA FOUNDATION และมีภาษาไทยอยู่ใต้รูปเขียนว่า มูลนิธิอมตะ
สถานที่ตั้ง "มูลนิธิอมตะ"
สํานักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่ที่ อาคารกรมดิษฐ์ ชั้น 1 เลขที่ 2126 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
สํานักงานสาขาตั้งอยู่เลขที่ 700/7 หมู่ที่ 5 ตําบลหนองไม้แดง อําเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
โครงการ "มูลนิธิอมตะ"
โครงการสร้างศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ และศิลปะแห่งภาคพื้นสุวรรณภูมิ อมตะ คาสเซิล นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์จัดแสดงผลงานทางด้านศิลปะ และวัฒนธรรมทุกแขนงของศิลปินในยุคสมัยนี้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ส่งเสริม สนับสนุน การจัดกิจกรรมทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การละคร และสถานที่จัดสัมมนา จัดเลี้ยง ห้องสมุด ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ภายใต้วัตถุประสงค์ของมูลนิธิอมตะ เพื่อส่งผ่านและเป็นสื่อกลางของการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมในรูปแบบต่างๆ ตามวิถีการดำเนินชีวิตของชาวเอเชีย
โครงการศิลปกรรม อมตะ อาร์ต อวอร์ด เพื่อเป็นการสนับสนุนศิลปินไทยและส่งเสริมการสร้างสรรค์ศิลปะแขนงต่างๆ ในประเทศไทย ผลงานที่ได้รับรางวัลและผลงานที่ได้รับคัดเลือก จะนำไปแสดงในนิทรรศการศิลปกรรมที่จัดพร้อมกับพิธีมอบรางวัล "อมตะ อาร์ต อวอร์ด"
โครงการรางวัลเกียรติยศ นักเขียนอมตะ เพื่อเป็นการยกย่องนักเขียนไทยที่มีความสามารถให้ปรากฏ และเป็นกำลังใจแก่นักเขียนไทยผู้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่า อันควรแก่การนำผลงานเพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงสู่สากล และถือเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศซึ่งเปี่ยมด้วยคุณค่าและมาตรฐาน คงไว้ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ อิสระ และเชิดชูเกียรติประวัติแห่งผู้อุทิศตนที่ได้ทุ่มเทสร้างผลงาน
โครงการหนังสือ เป็นการจัดทำหนังสือที่เขียนโดยนายวิกรม กรมดิษฐ์ เช่น หนังสือ "ผมจะเป็นคนดี" , มองซีอีโอโลก (1-10), มองโลกแบบวิกรม, กิน&อยู่แบบวิกรม, คาถาชีวิต, ชีวิตใหม่, คิดถึงแม่ ฯลฯ ได้เผยแพร่สู่สาธารณชนกว่า 7 ล้านเล่มนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา โดยเฉพาะหนังสือ“คาถาชีวิต”ที่ทำลายสถิติ ทำยอดขายถึง 2 ล้านเล่มในระยะเวลา 3 เดือน หนังสือหลายเล่มในโครงการหนังสือนี้จำหน่ายในราคาไม่ถึงเล่มละ 1 เหรียญสหรัฐ เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศมีโอกาสได้อ่านหนังสืออย่างทั่วถึง นอกจากนี้มูลนิธิได้บริจาคหนังสือกว่า 500,000 เล่ม ให้กับนักเรียน นักศึกษา คนพิการ ผู้ต้องขัง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ เป็นประจำอีกด้วย
โครงการอุทยานพี่อุทยานน้องร่วมแบ่งปันทรัพยากรและองค์ความรู้ (SPARK) เพื่อยกระดับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สู่อุทยานระดับโลก และใช้เป็นอุทยานฯ นำร่องเพื่อเป็นต้นแบบการเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการแก่อุทยานแห่งชาติอื่น ๆ ในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน
โครงการทุนอัจฉริยะ (The Genius Scholarship) โดยมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดี ความประพฤติดี แต่มีฐานะยากจน โดยพิจารณาคัดเลือกจากผู้ที่มีอัจฉริยภาพ และความเลิศในทักษะด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในยุคปัจจุบัน และอนาคต โดยเป็นทุนที่ให้อย่างต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือสูงกว่าตามความสามารถของนักเรียนทุน หากนักเรียนทุนสามารถรักษาระดับผลการศึกษาไว้ได้ โดยไม่มีข้อผูกมัดแต่อย่างใด เมื่อสำเร็จการศึกษา นักเรียนทุนยังมีโอกาสได้รับการพิจารณาเข้าทำงานใน บมจ.อมตะ คอร์ปฯ หรือในนิคมอุตสาหกรรมอมตะตามสายงานที่ถนัดต่อไป
ข้อมูล รูปภาพประกอบ มูลนิธิอมตะ ราชกิจจานุเบกษา