บีทีเอสกรุ๊ปฯ จ่อเปิดขายหุ้นกู้ 4 รุ่น ปลายต.ค.นี้

09 ต.ค. 2566 | 04:36 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ต.ค. 2566 | 05:07 น.

บีทีเอส กรุ๊ปฯ เล็งออกหุ้นกู้เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป 4 รุ่น ลุยตั้ง 6 สถาบันการเงินชั้นนำจัดจำหน่าย คาดเสนอขายปลายเดือนต.ค.นี้

นางสาวชวดี รุ่งเรือง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.60 - 3.90]% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.20 - 4.50]% ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.60 – 4.90]% ต่อปี และรุ่นอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.75 – 4.95]% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ย ทุก 6 เดือน โดยจะประกาศผลตอบแทนที่แน่นอนให้ทราบในภายหลัง

บีทีเอสกรุ๊ปฯ จ่อเปิดขายหุ้นกู้ 4 รุ่น ปลายต.ค.นี้

 ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป โดยคาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายน 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

ขณะเดียวกันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้บีทีเอส กรุ๊ปฯ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

บีทีเอสกรุ๊ปฯ จ่อเปิดขายหุ้นกู้ 4 รุ่น ปลายต.ค.นี้

 สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A-” เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ โดยมีแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566

ทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ จากการมีรายได้ค่าบริการที่สม่ำเสมอจากการให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง (รายได้จากการให้บริการ O&M) ตลอดจนการมีกระแสเงินสดรับจำนวนมากจากการลงทุนในสัดส่วน 33.33% ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท (BTSGIF) และสถานะที่มั่นคงในธุรกิจสื่อโฆษณาของบริษัทฯ

 

 ทั้งนี้จากแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” นั้น ทริสเรทติ้ง ให้เหตุผลว่า สะท้อนการคาดการณ์ ของทริสเรทติ้งว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการ O&M และการฟื้นตัวของธุรกิจสื่อโฆษณา

 

ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งที่กรุงเทพมหานครจะจ่ายคืนหนี้ที่ค้างอยู่ให้แก่บริษัทในอนาคตอันใกล้อีกด้วย

 

ปัจจุบัน บีทีเอส กรุ๊ปฯ ดำเนินธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจ MOVE ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการคมนาคมแบบ door-to-door แก่ผู้โดยสารด้วยรูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางราง ทางถนน ทางน้ำหรือทางอากาศ และเป็นผู้บุกเบิกรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี

 

2.ธุรกิจ MIX หรือผู้ให้บริการทางการตลาดในรูปแบบ Offline-to-Online โซลูชั่นส์ ที่ได้นำการใช้ Smart DATA ในการเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกกว่า 40 ล้านรายการจากแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา (Advertising) ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล (Digital Services) ธุรกิจการจัดจำหน่าย (Distribution) และกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดบริการด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในทุก ๆ จุดของการเดินทางเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น 

 

3.ธุรกิจ MATCH ที่เป็นการแสวงหาโอกาสและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการแบ่งปันข้อมูลภายใต้แพลตฟอร์มของบริษัทฯ MOVE และ MIX ให้แก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ

 

นางสาวชวดี กล่าวต่อว่า เราเป็นมากกว่าบริษัทที่ให้บริการด้านระบบขนส่งมวลชน (Beyond Transportation Company) ภายใต้กลยุทธ์ 3M : MOVE, MIX และ MATCH ทำให้เราสามารถขยายไปสู่ธุรกิจที่มีความหลากหลาย มีศักยภาพในการเติบโต สอดรับกับไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคดิจิทัล

 

"เรามั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจด้วยรูปแบบดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และจะช่วยยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งเชื่อว่า ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจและมั่นใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น”

 

นอกจากนี้บีทีเอส กรุ๊ปฯ ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน โดยได้รับการประกาศให้เป็นบริษัทด้านธุรกิจคมนาคมที่มีความยั่งยืนเป็นอันดับ 1 ของโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันจาก S&P Global ถือเป็นบริษัทในกลุ่มผู้นำ 1% แรกของกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ที่ได้รับการประกาศในรายงาน S&P Global Sustainability Yearbook ประจำปี 2023 ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับสากล และสะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กรอบการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน