วันที่ 10 ตุลาคม 2566 ความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ล่าสุดนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 15 คน จะเดินทางออกจากอิสราเอล โดยแบ่งเป็น 2 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบินแรกในเวลา 10.35 น. จำนวน 10 คน และเที่ยวบินที่ 2 ในเวลา 12.35 น. อีก 5 คน และทั้งหมดจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ในวันที่ 12 ต.ค.
ส่วนจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ขณะนี้มีจำนวน 2,990 คน ซึ่งคงต้องรอทางรัฐบาลอิสราเอลตอบกลับว่า จะพร้อมรับเครื่องบินของทหารอากาศประเทศไทย เพื่อเดินทางเข้าไปรับแรงงานไทยได้เมื่อไร
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้แล้วว่าหากพร้อม ก็ให้เตรียมเครื่องบิน ประกอบด้วย C130 จำนวน 6 ลำ และแอร์บัส A340 อีก 1 ลำ ในการไปรับ แต่หากมีภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ จะต้องมีการหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ หากจะเช่าเครื่องบินพาณิชย์เหมาลำจากอิสราเอล หรือเครื่องบินพาณิชย์สายอื่นๆ เพื่อความรวดเร็วในการพาแรงงานไทยกลับสู่ประเทศไทย
ถ้าเหตุการณ์บรรเทาลง เราคงจะต้องสอบถามแรงงานไทยอีกครั้งว่า มีความต้องการกลับสู่ประเทศไทยอยู่หรือไม่ หากยืนยันว่าอยากกลับประเทศไทยตามเดิม กระทรวงแรงงานก็จะประสานเรื่องนี้ให้อีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา อิสราเอลได้เคลื่อนย้ายแรงงานบางส่วนไปยังศูนย์อพยพที่ปลอดภัย ซึ่งเอกอัครราชทูต ประจำกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางมาเยี่ยมที่ศูนย์อพยพ ซึ่งคงต้องดูสถานการณ์วันต่อวัน และได้มีการตั้งวอร์รูมเพื่อประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าในแต่ละชั่วโมงมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
ส่วนกรณีที่มีแรงงานร้องเรียนมายังเพจต่างๆ ว่าแรงงานถูกนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ขณะนี้ตนได้แจ้งไปยังเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลแล้วว่า ให้ตรวจสอบเรื่องนี้เป็นการด่วน พร้อมประสานกับสถานทูตไทยในอิสราเอล ในช่วงที่เราเกิดความยากลำบาก เราคงต้องเร่งขอความร่วมมือไปยังอิสราเอล
รมว.แรงงาน กล่าวถึง กรณีที่ฝ่ายค้านเสนอแนะควรมีการรองรับเรื่องงานให้แก่กลุ่มแรงงานที่ไม่ประสงค์จะกลับประเทศไทยว่า กระทรวงแรงงานได้ประชุม หารือ ว่าจะมีการประสานกับบริษัทนายจ้างว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ ขอแรงงานกลับไทยก่อน ส่วนการกลับไปอิสราเอลอีกครั้ง เมื่อเหตุการณ์สงบจะขอเดินทางกลับไปที่เดิม ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับไทย กระทรวงแรงงานเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ในส่วนของค่าใช้จ่ายกลับอิสราเอลเมื่อเหตุการณ์สงบ จะต้องหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งว่า เราจะหางบจากที่ไหน
“สุดท้ายคงจะต้องของบจากนายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อนๆ ที่เสียค่าใช้จ่ายไปแล้ว มีการเสียโอกาส เพราะฉะนั้น เราจะมอบโอกาสนี้คืนให้กับผู้ใช้แรงงานทุกคน ก็ต้องขอบคุณฝ่ายค้านที่มีการเสนอแนะมา ซึ่งการที่พวกท่านเสนอแนะมา เราก็ได้มีการทำและประชุมล่วงหน้าไปแล้ว” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวย้ำว่า เราพร้อมที่จะรับกลับ และพร้อมที่จะส่งกลับไปทำงานในสถานที่เดิมให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็จะมีนายจ้างที่รับคนงานอื่นไปแล้ว แต่เราก็จะหาที่ใหม่ให้อีกครั้งหนึ่ง และพยายามส่งกลับไปอีกครั้ง แต่ในส่วนค่าใช้จ่ายอย่างไรก็ต้องมี โดยกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้รับผิดชอบในเบื้องต้นไปก่อน
ส่วนงบอพยพทางรัฐบาลจัดการให้อยู่แล้ว แต่การส่งกลับเป็นปัญหาที่กระทรวงแรงงานจะต้องดูแล โดยยังอยู่ในระหว่างการหารือ