“พาณิชย์” เผย สิทธิการใช้ GSP ส่งออกสหรัฐฯ ขึ้นแท่นอันดับ 1

09 ก.พ. 2567 | 03:47 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.พ. 2567 | 04:04 น.

กรมการค้าต่างประเทศ เผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าฯ GSP ส่งออกช่วง ม.ค.-พ.ย. ปี 66 มีมูลค่ารวม 3,143.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดสหรัฐฯ ครองอันดับหนึ่ง

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ซึ่งในปัจจุบันไทยได้รับสิทธิ GSP จาก 4 ประเทศ/กลุ่มประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) ประกอบด้วย ยูเครน อาเซอร์ไบจาน ทาจิกิสถาน มอลโดวา อุซเบกิสถาน จอร์เจีย และเติร์กเมนิสถาน 

ในช่วงเดือนมกราคม - พฤศจิกายน ปี 2566 มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 3,143.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 54.16 % ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ และตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดอันดับ 1 ที่ไทยมีการสิทธิ GSP ส่งออกมากที่สุด โดยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ อยู่ที่ 2,865.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 91.16 % ของมูลค่าการส่งออกที่ใช้สิทธิ GSP ทั้งหมด 

“พาณิชย์” เผย สิทธิการใช้ GSP ส่งออกสหรัฐฯ ขึ้นแท่นอันดับ 1

และจากการติดตามสถิติการใช้สิทธิ GSP พบว่าไทยมีการใช้สิทธิฯ ผ่านโครงการ GSP ของสหรัฐฯ สูงสุดเป็นอันดับ 1 โดยในช่วงเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2566 มีสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกภายใต้สิทธิฯ 5 อันดับแรกคือ 

1.ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ 

2.กรดมะนาวหรือกรดซิทริก 

3.หีบเดินทางขนาดใหญ่หรือกระเป๋าใส่เสื้อผ้า 

4.อาหารปรุงแต่ง 

5.ถุงมือยาง 

สำหรับโครงการ GSP ของสวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ เป็นอันดับ 2 มูลค่า 261.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 3 โครงการ GSP ของนอร์เวย์ มูลค่า 12.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโครงการ GSP ของกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) มูลค่า 4.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ 

โดยมีสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง อาทิ เพชรพลอยรูปพรรณทำด้วยโลหะมีค่า (สวิตเซอร์แลนด์) ข้าวโพดหวาน (นอร์เวย์) และสับปะรดกระป๋อง (CIS) เป็นต้น