ด่วน มติครม. เห็นชอบผลการคัดเลือก BEM ชนะการประมูล "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"

16 ก.ค. 2567 | 05:50 น.
อัพเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2567 | 06:38 น.

ด่วน มติครม.ล่าสุดวันนี้ 16 ก.ค.67 เห็นชอบผลการคัดเลือก บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ชนะการประมูล "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท พร้อมกับเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุน และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาผลการคัดเลือกเอกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท ที่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ชนะการประมูล

 

ด่วน มติครม. เห็นชอบผลการคัดเลือก BEM ชนะการประมูล \"รถไฟฟ้าสายสีส้ม\"

สำหรับผลการพิจารณาผลการคัดเลือกเอกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุนและเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุน ที่เสนอมาครั้งนี้ ได้ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด และปัจจุบันศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากษาจนได้ข้อยุติทุกคดีแล้ว

ทั้งนี้ในส่วนรายละเอียดอื่นๆ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้เป็นผู้แถลงชี้แจงต่อไป

จากนั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบผลการประมูลซึ่งมีบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) เป็นผู้ชนะโครงการขั้นตอนต่อไปจะเป็นการนัดหมายเอกชนลงนามในสัญญา ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งหลังจากลงนามแล้วบีอีเอ็มจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ทันที

ทั้งนี้ ตามที่มีรายงานระบุว่า รถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี จะก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเดินรถในปี 2571 ส่วนฝั่งตะวันตกช่วงวัฒนธรรม-บางขุนนนท์ จะเปิดบริการปี 2573

เมื่อถามว่าจะบรรจุนโยบาย 20 บาทตลาดสายลงไปในสายสีส้มหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า ในที่ประชุมครม.ในวันนี้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำโครงการนี้เข้าไปอยู่ในนโยบาย 20บาทตลอดสายอยู่แล้ว โดยได้เรียนในที่ประชุมครม.ว่า กระทรวงคมนาคมกำลังผลักดันกฎหมายพรบ.ตั๋วร่วม ซึ่งบรรจุนโยบาย 20 บาทอยู่ในพรบ.ตั๋วร่วม เมื่อถามว่า คดีความที่ค้างอยู่ในศาลไม่มีแล้วใช่หรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า ไม่มี 

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 1.4 แสนล้านบาทแล้ว และจากนี้จะเดินตามขั้นตอนการลงนามในสัญญาต่อไป

ทั้งนี้ยอมรับว่า ที่ผ่านมาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ได้มีความคืบหน้ามาตามกระบวนการ และหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องทุกคดีแล้ว ก็ได้นำมาเสนอเข้าครม.เห็นชอบ โดยหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้ทำความเห็นเสนอเข้ามาประกอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนระยะเวลาของการเปิดให้บริการนั้น นายสุรพงษ์ ยอมรับว่า น่าจะมีการแบ่งการเดินรถเป็นช่วง ๆ ก่อน โดยปัจจุบันมีช่วงของศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี ที่งานโยธาสร้างเสร็จแล้ว กระทรวงคมนาคม จะพยายามเร่งรัดการเดินรถในส่วนนี้ก่อน แต่คงต้องไปหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนคาดว่าใน 2 สัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุป

อย่างไรก็ตามในเรื่องของงานก่อสร้างช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – บางขุนนนท์ นั้น กระทรวงคมนาคม เห็นว่าปัจจุบันมีความพร้อมเรื่องการส่งมอบพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินได้มีข้อสรุปทั้งหมดแล้ว และเป็นไปตามกรอบที่กำหนดไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุดนั้น ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มีความเห็นว่า ครม. ไม่ควรพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุน เนื่องจากไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี นั้น รมช.คมนาคม ยืนยันว่า ครม.ได้มีมติรับทราบร่างสัญญาร่วมลงทุนแล้ว โดยเห็นว่าเป็นการลงทุนในลักษณะ PPP