ปลดล็อกโฆษณาเหล้า-เบียร์ มาตรา 32 มีอะไรบ้าง ทำแล้วไม่ผิดกฎหมาย

หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติความเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (พ.ร.บ.)โดยผลการลงมติเป็นเอกฉันท์ 365 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง และงดออกเสียง 0 เสียง ถือเป็นการยืนยันให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ซึ่งในส่วนสำคัญของการแก้ไขครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงและปลดล็อกข้อจำกัดหลายประการโดยเฉพาะในเรื่องการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

โดยร่าง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านการพิจารณานี้ได้ปรับแก้ไขในประเด็นสำคัญ 5 ด้านหลัก ได้แก่

คณะกรรมการควบคุม - เพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจและสภาเยาวชนในคณะกรรมการควบคุม รวมถึงการส่งเสริมบทบาทคณะกรรมการในระดับจังหวัด และให้นายก อบจ. ร่วมเป็นรองประธาน

การควบคุมการขาย - ยกเลิกคำสั่งคณะปฏิวัติและคำสั่ง คสช. ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการควบคุมการขายให้เยาวชนและผู้ที่อยู่ในภาวะมึนเมา

การโฆษณา - ปลดล็อกการโฆษณาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ โดยอนุญาตให้บุคคลทั่วไปสามารถแสดงผลิตภัณฑ์ได้หากไม่มีเจตนาเพื่อการค้า และให้ผู้ประกอบการสามารถประชาสัมพันธ์ชื่อและรายละเอียดสินค้าได้มากขึ้น แต่ต้องไม่เชิญชวนให้ดื่มหรืออวดอ้างสรรพคุณ

การบำบัดฟื้นฟู - ขยายกลุ่มเป้าหมายผู้ที่สามารถได้รับการบำบัดฟื้นฟูจากเพียงผู้ติดแอลกอฮอล์เป็นผู้ที่มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป และให้อำนาจหน่วยงานในการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น

บทกำหนดโทษ - เพิ่มมาตรการการตักเตือนและโทษปรับในกรณีความผิดที่ไม่รุนแรง และยกระดับโทษสำหรับการขายสุราให้เยาวชน รวมถึงเพิ่มอำนาจในการสั่งปิด ระงับใบอนุญาต หรือเพิกถอนใบอนุญาตในกรณีที่กระทำผิดอย่างต่อเนื่องหรือร้ายแรง

การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นการปรับตัวในหลายด้านของการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจและการป้องกันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องเยาวชนจากการเข้าถึงสุราและการสร้างมาตรการที่ยืดหยุ่นในด้านการโฆษณา

ขณะที่มาตรา 32 ของร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกี่ยวกับการโฆษณามีการแก้ไขและกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยสาระสำคัญของมาตรานี้ได้แก่:

การแยกโฆษณาเป็นบทเฉพาะ: การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะถูกแยกออกมาเป็นบทเฉพาะในกฎหมาย เพื่อให้มีการควบคุมที่ชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น

การอนุญาตให้แสดงผลิตภัณฑ์: บุคคลทั่วไปสามารถแสดงผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ได้ แต่จะต้องไม่มีเจตนาเพื่อการค้า

การประชาสัมพันธ์: ผู้ประกอบการสามารถประชาสัมพันธ์ชื่อและรายละเอียดของสินค้าได้มากขึ้น โดยมีข้อกำหนดว่าไม่สามารถใช้โฆษณาเพื่อเชิญชวนให้ดื่ม หรืออวดอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์

ห้ามใช้ตราเสมือน: ห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตราเสมือนหรือการออกแบบที่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโฆษณาแอลกอฮอล์ เช่น การใช้เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่คล้ายคลึงกับตราเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

มาตรานี้ถือเป็นการปลดล็อกการโฆษณาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ในบางประเด็นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถประชาสัมพันธ์ได้ แต่ยังคงต้องปกป้องเยาวชนและสังคมจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการโฆษณาที่ไม่เหมาะสม

สาระสำคัญของ มาตรา 32 เดิมใน ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกี่ยวกับการโฆษณามีดังนี้:

ห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: มาตรา 32 เดิมได้ห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ ทั้งในสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการส่งเสริมการบริโภคแอลกอฮอล์ในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงของเยาวชนและการดื่มที่ไม่รับผิดชอบ

ข้อยกเว้น: แม้ว่าจะมีการห้ามโฆษณาแอลกอฮอล์ในสื่อหลัก แต่ยังมีข้อยกเว้นบางประการ เช่น การโฆษณาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ในสื่อที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ใหญ่ หรือสถานที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงเยาวชนได้

การควบคุมที่เข้มงวด: นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับการโฆษณาในงานกิจกรรมต่างๆ เช่น การห้ามไม่ให้มีการใช้คำหรือสัญลักษณ์ที่อาจทำให้ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ดูน่าสนใจหรือมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการบริโภคมากขึ้น

การห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมาตรา 32 เดิมนี้เป็นการรักษามาตรการควบคุมการบริโภคแอลกอฮอล์ในสังคม และปกป้องเยาวชนจากการเข้าถึงข้อมูลที่อาจกระตุ้นให้เกิดการดื่มที่ไม่เหมาะสม