ในที่สุดหลังเสร็จสิ้นกระบวนการจัดทำยุทธศาสตร์แผนการตลาดท่องเที่ยวปี 2560 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท. ล่าสุดได้เป้าหมายท้าทายที่จะขับเคลื่อนรายได้จากการท่องเที่ยวในปีหน้าให้เติบโตในระดับ 2 หลัก หรือเพิ่มขึ้น 10% ด้วยประมาณรายได้รวมอยู่ที่ 2.84 ล้านล้านบาท แยกเป็นประมาณการรายได้สำหรับตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 1.89 ล้านล้านบาท และประมาณการรายได้จากตลาดในประเทศ อยู่ที่ราว 9.5 แสนล้านบาท (ตารางประกอบ)
[caption id="attachment_70674" align="aligncenter" width="700"]
เป้าหมายรายได้หารท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี 2560[/caption]
ดันรายได้ปี59ขึ้นอีก 2.6 แสนล.
จากเป้าหมายดังกล่าว หมายถึง ในปีหน้าททท.ต้องผลักดันการเพิ่มประมาณการรายได้ท่องเที่ยวจากปี 2559 ขึ้นอีก 2.6 แสนล้านบาท เป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศราว 1.7 แสนล้านบาท และตลาดในประเทศ 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป้านี้ทางคณะกรรมการททท.เองมองว่าเป็นไปได้มากกว่าเป้าหมายแรก ที่อยากจะผลักดันรายได้จากตลาดในประเทศเพิ่มเป็น 1 ล้านล้านบาท หรือหวังการเติบโตสูงถึง 16% เพื่อขยับเป้าหมายรายได้การท่องเที่ยวโดยรวมของไทยในปีนี้หน้าให้อยู่ที่ 2.89 ล้านล้านบาท
ต่อเรื่องนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท. กล่าวว่า หลังการประชุมแผนปฏิบัติการแล้วเสร็จและมีการนำเสนอบอร์ดททท.เพื่อขอความเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว จากการหารือร่วมกันมีความเห็นตรงกันว่าสมควรลดเป้าหมายการเติบโตรายได้จากตลาดในประเทศจากที่เราอยากผลักดันให้ได้ถึง 1 ล้านล้านบาทในปี2560 เหลือเป็นการเติบโตราว 10% หรือราว 9.5 แสนล้านบาท เนื่องจากบอร์ดททท.อยากเน้นเรื่องคุณภาพ ให้ความสำคัญกับการดูแลโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อม เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนตลาดต่างประเทศ มองว่าการเพิ่มรายได้ 10% หรือราว 1.89 ล้านล้านบาท มีความเป็นไปได้ (ตารางประกอบ) ซึ่งจะเห็นสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวต่างชาติในปีหน้าจะอยู่ที่ภูมิภาคเอเชีย รวมโอเชียเนีย คิดเป็น 65% ส่วนรายได้จากภูมิภาคยุโรป อมริกา ตะวันออกกลางและแอฟริกาอยู่ที่ 35%
ดังนั้นการจะขับเคลื่อนเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวในปีหน้าให้เพิ่มขึ้น 10% นั่นหมายถึงททท.สำนักงานในต่างประเทศ ต้องตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยเป็นบวกในทุกตลาด ซึ่งจะบวกมากหรือน้อยก็แตกต่างกันไป ซึ่งผู้ว่าการททท.มองว่าการเติบโตของตลาดต่างประเทศ ยังเป็นโมเมนตั้มที่ดีในปีหน้า ซึ่งดีต่อเนื่องจากปีนี้ซึ่งคาดว่าปีนี้ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 2.58 ล้านล้านบาท เป็นตลาดต่างประเทศถึง 1.72 ล้านล้านบาท ตลาดในประเทศอยู่ที่ 8.6 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มสูงมากหากเทียบกับปี2558 ที่ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 2.25 ล้านล้านบาท เป็นตลาดในประเทศ 8 แสนล้านบาท และรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.45 ล้านล้านบาท การเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการประมาณการรายได้จากตลาดต่างประเทศในปีนี้ เป็นเพราะการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวรัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักของนักท่องเที่ยวยุโรป ที่คาดว่าปีนี้จะกลับมาถึง 1 ล้านคน
[caption id="attachment_70675" align="aligncenter" width="700"]
เป้าหมายรายได้การท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศปี 2560[/caption]
"ในปี 2560 มีปัจจัยที่ท้าทายหลายประการ ทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกและปัจจัยทางธรรมชาติ ซึ่งล้วนแต่มีผลกระทบกับการท่องเที่ยวทั้งสิ้น รวมถึงนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) ที่รัฐบาลผลักดันให้สร้างความเข้มแข็งจากภายใน ซึ่งการท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศในปีหน้า" นายยุทธศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ชูจุดขายเอกลักษณ์ไทยเฉพาะถิ่น
สำหรับจุดขายของการท่องเที่ยวในปีหน้า ทั้งตลาดในและต่างประเทศนั้น อยู่บนพื้นฐานการนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยเฉพาะถิ่น (The Unique Thai Local Experiences) แก่นักท่องเที่ยว ดังนั้นตลาดในประเทศททท.ใช้แคมเปญ "ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง" โน้มน้าวให้นักท่องเที่ยวไทยได้เปิดมุมมองใหม่ต่อการท่องเที่ยววิถีท้องถิ่น เห็นถึงคุณค่าและมีส่วนร่วมกับประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์แต่ละท้องถิ่นของไทย และส่งต่อประสบการณ์ให้แก่คนรอบข้าง ส่วนตลาดต่างประเทศ ยังคงใช้ Amazing Thailand ภายใต้แนวทางการสื่อสาร "Discover Amazing Stories in Amazing Thailand" เพื่อนำประสบการณ์จากการท่องเที่ยวอันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของไทย ไปสู่สายตาคนทั่วโลก
ในด้านการทำตลาดต่างประเทศททท.จะเน้นการดึงกลุ่มตลาดศักยภาพสูง เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทย ก้าวสู่ "ควอลิตี้ เลเชอร์ เดสติเนชั่น" เน้นการเติบโตของรายได้มากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยว อีกทั้งให้เกิดการกระจายรายได้ กระจายนักท่องเที่ยวไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ทำให้การทำตลาดในปีหน้าจะเน้นเจาะเซ็กเม้นท์กลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน ตลาดใหม่ในเชิงพื้นที่ที่มีศักยภาพในการจ่ายสูง เช่น กลุ่มประเทศ BRIC อาร์เจนติน่า ยุโรปตะวันออก การขยายฐานตลาดที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย โดยขยายฐานตลาดกลุ่มรายได้ต่อคนตั้งแต่ 2 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐต่อคนต่อปีขึ้นไป การนำเสนอสินค้า luxury และ creative tourism เป็นจุดดึงดูดให้เกิดการใช้จ่าย การให้ความสำคัญการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ดึงตลาดยุโรปและอเมริกาให้เข้ามาท่องเที่ยวไทยแบบเชื่อมโยงในเส้นทาง ASEAN Connectivity และการเดินทางท่องเที่ยวกันเองในกลุ่ม CLMV
เปิดกิมมิกท้าเที่ยวข้ามภาค
ขณะที่ตลาดในประเทศ ททท.จะเปิดตัวโครงการ "ท้าเที่ยวข้ามภาค" โดยวางกลยุทธ์ขอท้า 3 กลุ่มเป้าหมายกระแสหลัก ให้เที่ยวข้ามภาคร่วมกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ได้แก่ กลุ่ม GEN Y ท้าลุยข้ามภาคไปท้าพิสูจน์ ของดีของเด็ดในภาคต่างๆ,ท้าคนฝั่งทะเลข้ามภาคมาปีนเขา ,ท้าเด็กดอยมาโต้คลื่นกับเด็กทะเลที่ภาคใต้, ท้าคนรักหมูย่าง เมืองตรังมากินหมูยอสุดแซ่บที่ภาคอีสาน ส่วนกลุ่มผู้หญิง (Women) ท้าให้เที่ยวข้ามภาคออกไปใช้เวลาคุณภาพ กับตัวเอง เที่ยวข้ามพื้นที่ไปช้อป ใช้ชีวิตชิคๆ เก๋ไก๋ ไม่เหมือนใคร และกลุ่ม Sliver Age (ผู้สูงวัย) ท้าก๊วนรุ่นใหญ่ หัวใจวัยสะรุ่น ให้ชวนเดอะแก๊งค์ ออกไปซิ่ง ข้ามภาคยกก๊วน ทั้งก๊วนกิน ก๊วนกอล์ฟ ก๊วนบุญ ก๊วนแด๊นซ์ ให้สุดสวิงริงโก้ เรียกว่าเที่ยวจนลืมวัย
ส่วนโครงการ 12 เมืองต้องห้ามพลัส และวันธรรมดาน่าเที่ยว ในปี 2560 นอกจากจะต้องสานต่อโครงการเหล่านี้ต่อไป ททท.ยังมองที่จะต้องปรับรูปแบบ เพื่อมองไปถึงการดึงให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาด้วย
ทั้งหมดล้วนเป็นทิศทางการทำตลาดของททท.ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,174 วันที่ 14 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559