นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงลอยกระทงสำรวจระหว่างวันที่ 26-31 ตุลาคม65 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 1,254 คนทั่วประเทศ พบว่า ประชาชนจะออกไปลอยกระทงคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา โดย 47.8%
ส่วนใหญ่จะออกไปลอยกระทงเพราะต้องการผ่อนคลาย 22.5% ยังไม่แน่ใจ เพราะมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี ต้องประหยัดค่าใช่จ่าย และ 19.9% ไปแต่ไม่ลอย โดยทุกกลุ่มอายุ70.6% ตอบว่าจะเดินทางไปลอยที่สถานที่มีการจัดงาน เช่น สวนสาธรณะ/บึง แม่น้ำ/คลอง วัด บ้านเพื่อน เป็นต้น และ13.1%บอกว่าจะลอยผ่านช่องทางออนไลน์
ส่วนการใช้จ่ายในวันลอยกระทง พบว่าใช้จ่ายต่อคนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,920 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,280บาทต่อคน โดยการใช้จ่ายส่วนใหญ่จะใช้สำหรับค่าเดินทาง รัประทานอาหารนอกบ้าน สังสรรค์ เป็นต้น
ทั้งนี้สาเหตุที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้นเนื่องจากว่าปีนี้ สินค้ามีราคาแพงขึ้น ถึง57.6%เมื่อเทียบกับปีก่อน รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการใช้จ่าย รายได้เพิ่มขึ้น และมองว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น มีหนี้สินน้อยลง คาดว่าในปีนี้เงินสะพัดในช่วงลอยกระทงอยู่ที่ 9,700 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 5ปีนับตั้งแต่ปี 2561 และกลับมาเป็นบวกในรอบ5ปีเช่นกัน
อย่างไรก็ดี บรรยากาศลอยกระทงปีนี้จะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา คนจะออกไปลอยกระทงมากขึ้น เนื่องจากประชาชนเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด มีการฉีดวัคซีน และมองว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว นักท่องเที่ยวกลับมามากขึ้นเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปีที่ผ่านมา
ดังนั้นมหาวิทยาลัยหอการค้ามองว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส1 ปีหน้า และจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในไทยปีนี้ที่10ล้านคนหรือมากกว่า โดยมองว่าในไตรมาส4 ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทย1.5-2ล้านคน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส4ฟื้นตัวและGDPไทยจะอยู่ที่3.3-3.5%และปี2566 GDPไทยจะอยู่ที่3.5%บวกลบ
สำหรับคำอธิฐานที่ของให้ตัวเอง คือการงาน การเงิน การค้าเจริญรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรง เจอแต่สิ่งที่ดีมีความสุข ส่วนอธิฐานให้ประเทศ เช่น ขอให้เศรษฐกิจดี ขอให้คนในชาติสามัคคีกัน ขอให้ค่าครองชีพลดลง ขอให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองและขอให้ยาเสพติดหมดไป ส่วนความกังวลในช่วงลอยกระทง ไฟไหม้ จี้ปล้นล้วงกระเป๋า การจารจรติดขัด ล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน เรือล่ม การแพร่ระบาดของโควิด และพ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเป็นต้น