รับเหมา-แรงงานไทยเนื้อหอม ซาอุฯ รับไม่อั้นสร้างเมืองนีออม

 

การฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบียในทุกมิติ  ได้สร้างโอกาสทองให้ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาคแรงงาน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)  จัดงาน  “THAI -SAUDI INVESTMENT FORUM”

 

เวทีเชื่อมสัมพันธภาพธุรกิจครั้งใหญ่ระหว่างนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจชาอุดีอาระเบีย วันที่7 พฤศจิกายน 2565 หลังพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสะท้อนภาพใหญ่ โอกาสอันมากมายมหาศาล ที่ทั้งสองประเทศจะได้รับ ใน 9 ด้าน เช่น การท่องเที่ยว พลังงาน ก่อสร้าง แรงงาน อาหาร ฯลฯจากการฟื้นสัมพันธ์ นับตั้งแต่วันที่   25 มกราคม 2565เป็นต้นมา

โดยเป้าหมายใหญ่ ประเทศไทยต้องการดึงเม็ดเงินการลงทุนจากซาอุดีอาระเบีย หนึ่งในประเทศศักยภาพสูง เข้าสู่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ขณะเดียวกันประเทศซาอุดีอาระเบีย ต้องการการลงทุนในประเทศเช่นกันโดยเฉพาะภาคก่อสร้างที่ต้องการดึงแรงงานฝีมือดีจากไทย จำนวนมากด้วยเช่นกัน   

 

นายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานที่ปรึกษา อีอีซี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า  เวทีดังกล่าวจะเป็นจุดนัดพบนักธุรกิจ ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย  เพื่อเจรจา แลกเปลี่ยนการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียมีความต้องการ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง แรงงาน เทคโนโลยี นวัตกรรมของไทยจำนวนมาก  

 

เช่น เอสซีจี  บริษัทรับเหมาก่อสร้าง บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วย ก่อสร้างโครงการ เมืองใหม่ นีออม   (Neom)  เมืองขนาดใหญ่ กลางทะเลทราย  ส่วนความต้องการมากแค่ไหนยังไม่ได้เจรจาในเบื้องลึก

นายคณิศ กล่าวว่า จากการเดินทางศึกษาดูงานโครงการเมืองใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยน กับการพัฒนาเมืองใหม่อีอีซี พบว่า พื้นที่สร้างเมืองใหม่นีออม เป็น ทะเลทราย  และต้องการให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีความสะดวกสบาย ปัจจุบันการออกแบบแล้วเสร็จ รอการก่อสร้างคาดว่าจะต้องใช้เวลานาน

 

 เมืองนีออม เป็นชุมชนเมืองแบบใหม่ซาอุดีอาระเบีย  ถูกพลิกโฉม ครั้งสำคัญ เพื่อนำไปสู่ เมืองศิวิไลซ์กลางทะเลทราย ใหญ่ที่สุดในโลกและเน้นให้ความสำคัญกับพลเมืองเป็นอันดับแรก

  

  ความคืบหน้า  ทางซาอุดีอาระเบียได้ออกแบบ แบบแปลนตึกขนาดใหญ่ เดอะไลน์ (The Line)  ภายใต้โครงการนีออม (Neom)  ตึกขนาดใหญ่ความยาว 170 กิโลเมตร ความกว้าง 200 เมตร ความสูง 500 เมตร เนื้อที่ใช้สอยรวมกัน 34 ตารางกิโลเมตร รองรับประชากร 9 ล้านคน 

 

ตัวอาคาร  แบ่งสัดส่วนพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน พื้นที่อยู่อาศัย การศึกษา มหาวิทยาลัย พื้นที่สวนสาธารณะ ระบบพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100%เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการของประเทศซาอุดีอาระเบียที่ต้องการลดการพึ่งพาพลังงานน้ำมันลงในอนาคต แม้จะยังไม่มีรายละเอียดของแหล่งพลังงานหมุนเวียนแต่เชื่อว่าเป็นแหล่งพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่มีอยู่อย่างมากในทะเลทรายประเทศซาอุดีอาระเบีย

 

โครงการดังกล่าวถูกเปิดเผย โดยเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล-ซาอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย หลังจากก่อนหน้านี้แนวคิดของโครงการนีออม (Neom) ถูกนำเสนอในปี 2021 ที่ผ่านมา และนำไปสู่Vision2030

 

หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จนับเป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่สุดในโลก และที่น่าทึ่ง เมืองใหม่แห่งนี้จะถูกสร้างขึ้นบนทะเลทรายทิศตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ใกล้กับทะเลแดง โครงสร้างภายนอกออกแบบติดตั้งด้วยกระจกที่แปลกตาสะท้อนแสงตลอดแนวความยาวของทะเลทรายที่ร้อนระอุ

 

ขณะระบบการขนส่งภายในตัวอาคาร เดอะไลน์(The Line) ถูกเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว โดยผู้อยู่อาศัยไม่จำเป็นต้องออกจากอาคารขนาดใหญ่แห่งนี้ ภายใต้แนวคิดการเดินทางแบบไร้รอยต่อสามมิติ ขึ้นบน ลงล่าง ซ้ายและขวา

 

 ระบบขนส่งคาดว่าใช้ระบบขนส่งแบบรางพลังงานไฟฟ้าเพื่อการขนส่งผู้โดยสารภายในเวลาเพียง 5 นาที ตลอดความยาวของเมือง รวมไปถึงสินค้าและทรัพยากรด้านต่าง ๆ สำหรับการดำรงชีวิตภายในโครงสร้างขนาดใหญ่แห่งนี้ 

 

สำหรับมูลค่าการก่อสร้าง ประเมินว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 18.4 ล้านล้านบาท ปัจจุบันได้มีการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นด้านสถานที่และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมบางส่วนไปแล้วนับตั้งแต่ปี 2021 ทั้งโครงการอาจต้องใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 20-30 ปี สะท้อนแหล่งงานมหาศาลของแรงงานและทัพนักลงทุนไทย