นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวในงานสัมมนา Go Thailand : Recession or Resurrection ถดถอย VS พลิกฟื้น จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ในหัวข้อ GO Thailand: ธุรกิจไทยต้องไปต่อ ว่าเราผ่านช่วง 3 ปี อย่างท้าทายและยากลำบาก โดยมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย การแพร่ระบาดโควิด 3 ระลอก เปลี่ยนพฤติกรรมของคนไปมากมาย เราก้าวไปสู่โลกใหม่โดยไม่รู้มาก่อน
อย่างไรก็ตามความทุกข์ยาก 3 ปีกำลังผ่านไป แต่ทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมและเปลี่ยนการชีวิตคนไปมากมาย และกำลังก้าวสู่โลกใหม่แน่นอน
สำหรับปีหน้ามีทั้งข่าวดี และข่าวร้าย ข่าวดีเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามา มีการใช้งานดิจิทัลเพิ่มขึ้น ข้อเสีย หนี้ครัวเรือน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และโควิดยังไม่สิ้นสุด ยังอยู่กับเราตลอดเวลา โดยเศรษฐกิจโลก มีปัญหาเรื่องการเลย์ออฟคน ทั้งเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ซึ่งไม่เคยมาก่อนว่าทั่วโลกจะมีการเลย์ออฟคน
ส่วนประเทศไทย วันนี้ประเทศไทยมีโอกาสอย่างมาก ปีหน้าขอฟันธงว่าเศรษฐกิจบ้านเราจะพลิกฟื้น โดยทุกคนต้องช่วยกันทำให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นให้ได้ ถ้าไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจพลิกฟื้น จะอยู่ในโลกลำบาก และไทยมีโอกาสอย่างมากในการพลิกฟื้นครั้งนี้ โดยเรามีคุณสมบัติโลกไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 100 ปี ทุกประเทศประสบกับสถานการณ์โควิด เหมือนกันหมด ทรัพยากรถูกนำมาใช้เหมือนกันหมด ประเทศใหญ่ หรือ เล็ก ต้องเริ่มต้นพร้อมกัน แต่ประเทศไทยมีโอกาส เพราะภูมิศาสตร์ประเทศไทยอยู่ในจุดน่าสนใจ
สำหรับการพลิกฟื้น สิ่งที่สำคัญต้องทำอย่างมาก 2 เรื่อง คือ 1. เพิ่มประสิทธิภาพองค์กร โดยองค์กรต้องมีความเข้มแข็ง ไม่ใช่บริษัทต้องทำให้องค์กรเข้มแข็ง แต่ทุกหน่วยงาน รวมถึงองค์กรภาครัฐ ต้องมีประสิทธิภาพ โดยองค์กรต้องทำดิจิทัลทรานสฟอร์มเมชัน ประเทศเล็กๆ อย่างไทย สามารถแข่งกับประเทศใหญ่ๆ ได้ถ้ารู้จักให้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ โควิดเป็นตัวเร่งให้เราต้องทำดิจิทัลทรานฟอร์สเมชันเร็วขึ้น และ 2. การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมีการรีสกิล ยกระดับความรู้ความสามารถของคนไทย ถ้าต้องการพลิกฟื้นประเทศต้องมีการทำดิจิทัลทรานสฟอร์มเมชัน และรีสกิล
ประเทศไทยมีโอกาส โดยมีเทคโนโลยีที่ดีมาก คือ 5G โดยไทยมี 5G ที่ดี และแข็งแรงมากกว่าหลายประเทศในโลก เป็นรองแค่เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น ทั้งนี้ 5G มีความสำคัญ โดยพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต รถยนต์ไร้คนขับ การวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ การใช้คลาวด์แบบประหยัด จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มี 5G เป็นโครงสร้างพื้นฐาน 5G ไม่ใช่ดีเฉพาะความเร็ว แต่ยังมีความหน่วงต่ำ ให้สิ่งที่คิดว่าเป็นไปได้ สามารถทำได้
ส่วนการพัฒนาคน ถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับประเทศไทย ถ้าต้องการพลิกฟื้นประเทศต้องพัฒนาคนอย่างจริงจัง โดยขอนำเสนอแนวทางการพัฒนาคน 3 ประเด็น คือ 1. ทักษะด้านไอที ถ้าไม่มีต้องจ้างเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นคนเวียดนาม หรืออินเดีย แต่ไม่ใช่แค่จ้างเข้ามาอย่างเดียว แต่ต้องให้สอนคนของเราที่มีอยู่ให้มีความสามารถเทียบเท่าให้ได้ แต่ถ้าสอนแล้วทำไมได้ก็จ้างต่างประเทศเข้ามา
2 วันนี้องค์กรเอกชนของไทยมีความแข็งแรงมาก ประเทศเข้มแข็งต้องทำให้เกิด 3 ประสาน รัฐ เอกชน และประชาชน ที่ต้องทำเพิ่ม รัฐบาล ต้องเป็นซัพพอร์ตเตอร์ ไม่ไช่เป็นผู้กำกับดูแล หรือ เข้ามาแข่งกับเอกชนอีกต่อไป และต้อง ใช้กฎหมายแบบเท่าเทียมและเป็นธรรม ถ้าไม่ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม จะเป็นตัวกีดกันการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน
และ 3. องค์กรเอกชนขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแกร่ง ต้องรู้จักทำเศรษฐกิจแบ่งปัน ต้องเป็นปลาใหญ่ที่ช่วยปลาเล็ก ช่วยสนับสนุนรากหญ้า สร้างวงจรธุรกิจแบบอีโคซิสเต็มให้ได้ ถ้าองค์กรใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมประเทศพลิกฟื้นได้ยากมาก สำหรับประชาชน ต้องเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองให้ได้ ไม่ใช่เรียกร้อง หรือ รอรับอย่างเดียว
“ประเทศไทยยังมีความหวัง แต่ต้องเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดโอกาสใหม่ และหวังว่าประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก”
นายสมชัย กล่าวต่อไปอีกว่า ผู้ให้บริการโทรคมนาคมไม่ใช่เฉพาะเอไอเอส มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมหาศาล ช่วยรัฐประหยัดเงินลงทุนดิจิทัล อินฟราสตักเจอร์ไปเป็นจำนวนมากให้กับอุตสาหกรรม โดยหากภาคอุตสาหกรรมมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้จะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยการทำดิจิทัลอินฟอร์เมชันนั้นดิจิทัลอินฟราสตักเจอร์มีความสำคัญ ต้องเปิดให้อีโคซิสเต็มเข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก เพื่อเปลี่ยนประเทศทำให้เกิดการทรานสฟอร์เมชันได้จริง “
นายสมชัย กล่าวปิดท้ายว่า ทุกๆปีเอไอเอส มีการลงทุน 3-4 หมื่นล้านบาท ปีหน้าน่าจะลงทุนต่อเนื่อง ขณะนี้เครือข่ายครอบคลุม 80% แต่การใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จำเป็นต้องลงทุนเน็ตเวิร์กเพิ่ม โดยขยายไปในพื้นที่ 20% ที่ยังไปไม่ถึง ต้องเพิ่มกำลังรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดคุณภาพเพิ่มขึ้น
สำหรับอุปสรรคและความท้าทายในการทำธุรกิจประเทศไทย มี 2 ส่วนแรก คือ ส่วนธุรกิจ ดิจิทัลอินฟราสตักเจอร์ ไม่มีปัญหา มีการเติบโตขึ้นทุกปี ปีละ 20-30% แต่ต้องลงทุนเน็ตเวิร์กเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น แต่รายได้ไม่โตตาม โดยเติบโตแค่ตัวเลขตัวเดียว ต่ำกว่าตัวเลข GDP เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ค่าบริการไทยถูกสุดในโลก
ส่วนที่ 2 คือ ผู้กำกับดูแล หรือ กสทช. เอไอเอส ประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ไป 2 แสนกว่าล้าน ซึ่งเป็นต้นทุนทั้งสิ้น เพราะ ประเทศที่เจริญแล้วให้ใบอนุญาตฟรี เพราะรู้ว่าโอปอเรเตอร์จำเป็นต้องไปลงทุน อินฟราสตักเจอร์ ผู้กำกับดูแลจำเป็นอย่างยิ่งที่เข้ามาเป็นซัพพอร์ตเตอร์ ไม่ใช่หาเงินกับโอปอเรเตอร์ เพราะเงินของโอปอเรเตอร์มาจากผู้ใช้บริการ หรือประชาชนทั้งสิ้น