นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้เปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ ปัจจุบันกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติมสิทธิสวัสดิการในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งอยู่ระหว่างการของบประมาณเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาเพิ่มสิทธิอื่นๆ ให้ครอบคลุมความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด หลังจากนั้นจะเตรียมประกาศผลตรวจสอบคุณสมบัติภายในเดือน ม.ค.นี้ ผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th/ และเริ่มต้นการใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.66
สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ดังกล่าวได้เปิดให้ลงทะเบียนไปตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.-31 ต.ค.65 และได้ประกาศผลการลงทะเบียนและผลการตรวจสอบความสัมพันธ์กับกรมการปกครองเป็นขั้นตอนแรก ตามเกณฑ์บุคคลและเกณฑ์ครอบครัว หากมีผู้ที่ตรวจสอบสิทธิแล้วพบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก สามารถอุทธรณ์การตรวจสอบสิทธิได้ โดยใช้ระยะเวลาตรวจสอบ 15-30 วัน และหากอุทธรณ์แล้วผ่าน จะยังคงได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการย้อนหลังด้วย
สำหรับแนวทางการพิจารณาเพิ่มเติมสิทธิสวัสดิการในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอยู่เดิม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและครอบคลุมความต้องการของประชาชนมากขึ้น โดยปัจจุบันประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการฯ มีสิทธิ ดังนี้
1.ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
-วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
-วงเงินซื้อสินค้าตามมาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษ 200 บาทต่อเดือน (เฉพาะเดือน ม.ค.66)
-ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.66)
-ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน, ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน, ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม และปริมณฑล)
2.ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
-เงินชดเชยค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
-เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
3.ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
-เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)