ทิศทางราคาทองคําที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% เมื่อวานนี้ ถ้อยแถลงของเฟดยังคงให้ความสําคัญในการควบคุมเงินเฟ้อเป็นหลัก และส่งสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อได้เริ่มผ่อนคลายลงแล้ว ทำให้ราคาทองคําแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก่อนดีดตัวกลับและปิดตลาดที่ 1,950 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ภาพรวมของตลาดทองคํายังคงแข็งแกร่ง จากภาวะของเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลง
นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท MTS Gold Group ระบุว่า ราคาทองคําปรับตัวทําจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 9 เดือนที่ระดับ 1,957 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ มีฐานที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ติดต่อกันประมาณ 10 วัน ทําให้การปรับขึ้นของทองคําดูจะมีความมั่นคง และแข็งแกร่งมากขึ้น สําหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,930 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวต้านอยู่ที่ 1,965 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ขณะที่การเปิดประเทศของจีน ทำให้หลายฝ่ายมองว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจภาพรวมดีขึ้น และทําให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นจาก 5 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็น 6.713 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้ง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับมาขยายตัวที่ 5.2% ในปี 2566 สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 4.4%
ด้านเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากภาคการท่องเที่ยว แม้การส่งออกจะได้รับผลกระทบ โดยค่าเงินบาทคาดว่าจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งมีแนวรับสําคัญที่ 32.50 บาทต่อดอลลาร์