แค่ 5 ข้อความแต่สะท้าน 2 แผ่นดิน อดีตนายอำเภอแม่สายของขึ้น ฉะภาครัฐทั้งไทยและเมียนมา ไม่อยากเปิดด่าน ทั้งที่เจรจากันมาเกือบปี เหตุเพราะมีผลประโยชน์ที่คนทั่วไปคาดไม่ถึง พร้อมยกตัวอย่างตอนเปิดด่านค่าข้ามแดน 30 บาทเข้ารัฐ แต่ตอนนี้ค่าลักลอบข้ามแดนต้องจ่ายหลักหมื่น แต่ไมรู้ไปเข้ากระเป๋าใคร
ผู้สื่อข่าว"ฐานเศรษฐกิจ" รายงานจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายว่า เช้าวันนี้ ผู้ใช้แอพพิเคชั่นไลน์ชื่อว่า Choosak upanan หรือนายชูศักดิ์ อุปนันท์ อดีตนายอำเภอแม่สาย ได้เข้าไปโพสต์ในไลน์กลุ่มสื่อของจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มเกือบ 300 คน ด้วยข้อความว่า
"การเปิดด่านฯข่าวว่ายังไม่แน่นอนครับต้องประชุมกันอีกรอบ"
"ตอนแรกว่าจะเปิด20นี้ แต่ยังไม่แน่นอนครับ ข่าวว่าจะต้องประชุมกันอีกรอบ ยังไม่ทราบเมื่อไหร่"
อดีตนายอำเภอแม่สาย ยังโพสต์ต่อด้วยว่า
"พม่าเงื่อนไขเยอะมาก มีทางเดียวเราสร้างสถานการณ์ปิดสะพานแห่งที่สองเลย จะเป็นเงื่อนไขต่อรองกับมัน"
"ชาวบ้านเดือดร้อนกัน ลักษณะอย่างนี้กระทรวงการต่าง ปท. ต้องลงมาดูครับ ต้องมีการร้องเรียนให้ข้อเท็จจริงไปทางคณะกรรมาธิการต่างประเทศครับ"
"ต้องร้องผ่านสื่อฯครับ"
อย่างไรก็ตามความพีคสุดขีดอยู่ที่ข้อความสุดท้าย ซึ่งอดีตนายอำเภอแม่สายโพสต์ว่า
"ทราบว่าทั้งจนท.ไทยกับพม่าไม่อยากให้เปิด เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในเรื่องค่าข้ามแดน"
"สมัยผมเป็น นอ.แม่สาย ค่าผ่านแดน 30 ฿ เข้าหลวงฯ เดี๋ยวนี้ทราบว่าเป็นหมื่น สงสารคนเจ็บป่วยจะเข้ามารักษาฝั่งไทย ตลอดทั้งญาติพี่น้องจะข้ามไปมาหาสู่กันตามปกติก็ต้องจ่ายเงินเป็นหมื่น ๆ ผมว่ามันไม่ถูกต้องครับ ขัดต่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศต้องลงมาดู จะปล่อยให้ระดับท้องถิ่นตกลงกันไม่ได้ครับ"
โพสต์ดังกล่าวของอดีตนายอำเภอแม่สาย ซึ่งถือเป็นตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ของอำเภอ สร้างความฮือฮาให้กับโลกออนไลน์ในพื้นที่เป็นอย่างมาก ด้วยเพราะพื้นที่ชายแดนแม่สายที่คนทั่วไปก็รับรู้ ว่าเป็นพื้นที่เกรดเอ มีผลประโยชน์ให้ข้าราชการโดยเฉพาะที่ไม่ซื่อตรง สามารถเรียกรับผลประโยชน์ได้อย่างมากมายมหาศาล
ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อให้คนต่างด้าวสวมสิทธิ์เป็นคนไทย ได้บัตรประชาชนคนไทย
สำหรับ นายชูศักดิ์ อุปนันท์ เคยเป็นนายอำเภอแม่สาย เมื่อประมาณช่วงปี 2549- 2540 เกิดข่าวใหญ่ในพื้นที่ เมื่อปลัดอำเภอคนหนึ่งในที่ว่การอำเภอแม่สาย นำชาวบ้านมาประท้วงขับไล่นายอำเภอ หลังจากตนเองถูกคำสั่งให้โยกย้ายออกจากพื้นที่ และปลัดคนดังกล่าวยังไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับนายอำเภอแม่สายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
ซึ่งเรื่องความขัดแย้งระหว่างปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน กับนายอำเภอแม่สายในคราวนั้น แม้ว่าข้อเท็จจริงทั้ง 2 คนยังไม่เคยเปิดเผย แต่ชาวบ้านบ้านลือกันให้แซ่ดว่าน่าจะเกิดจาก...ผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวนั่นเอง
ชัยณรงค์ สีนาเมือง/รายงาน