เนื่องจากสภาพการจราจรบนถนนรังสิต-นครนายก และโครงข่ายถนนโดยรอบที่มีความติดขัด รวมถึงเป็นเพิ่มทางเลือกการเดินทางของประชาชนระหว่างจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นใน รองรับการขยายตัวของแหล่งชุมชน ที่อยู่อาศัย สถานศึกษาและนันทนาการของภาครัฐทั้งที่เปิดบริการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนา รองรับการเดินทาง และการขนส่งสินค้าระหว่างพื้นที่ กทม. และจังหวัดใกล้เคียง
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 14 มี.ค. 2566 ได้อนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ดำเนินโครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) ระยะทาง 16.21 กม.เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร(ไป-กลับ) มูลค่าการลงทุน 24,060.04 ล้านบาทมีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับทางพิเศษฉลองรัชที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษจตุโชติบริเวณถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพด้านตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) และมุ่งหน้าทางทิศตะวันออกตัดถนนหทัยราษฎร์และถนนนิมิตใหม่ แล้วเลี้ยวขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเชื่อมต่อถนนลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
การก่อสร้างโครงการจะมีทางแยกต่างระดับ 1 แห่ง และทางขึ้นลง 3 แห่ง ได้แก่ 1)ทางแยกต่างระดับจตุโชติ 2)ทางขึ้นลงจตุโชติ1และหทัยราษฎร์ 1 3)ทางขึ้น-ลง หทัยราษฎร์ 2 และ 4)ทางขึ้น-ลง ถนนลำลูกกา มีด่านเก็บค่าผ่านทาง 3 ด่าน คือ ด่านจตุโชติ ด่านหทัยราษฎร์ และด่านลำลูกกา
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว มีมูลค่าการลงทุน 24,060 ล้านบาท แยกเป็นค่าจัดกรรมสิทธิที่ดินโดยใช้งบประมาณรัฐบาล 3,726.81 ล้านบาท ซึ่งคำนวณตามราคาประเมิน ณ ปี 2564 ประกอบด้วย พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน 471 ไร่ 99 ตารางวา อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับผลกระทบ 134 หลัง
ค่าก่อสร้าง ควบคุมงานมูลค่า 20,333 ล้านบาท กทพ.จะระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund : TFF) 14,374 ล้านบาท และออกพันธบัตรในกรอบวงเงิน 5,960 ล้านบาท
น.ส.ไตรศุลี กล่าวถึงรายละเอียดโครงการ ว่า โครงการดังกล่าว จะใช้เวลาดำเนินการก่อสร้าง 5 ปี ระหว่าง 2566-2570 โดยดำเนินการ66 เสนอร่าง พรฎ.เพื่อจัดกรรมสิทธิที่ดิน คัดเลือกผู้ควบคุมงานก่อสร้างและคัดเลือกผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการ ในช่วงเดือนมี.ค.- ก.ย. 2566 และดำเนินการจัดกรรมสิทธิ ระหว่าง ต.ค.66-ก.ย. 2568 ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างโครงการ ระหว่าง ก.ย. 2567 - ส.ค. 2570