นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังรับฟังวิสัยทัศน์ตัวแทนพรรคการเมือง ว่า มุมมองของภาคธุรกิจต่อนโยบายขับเคลื่อนประเทศ ภาคธุรกิจได้มีโอกาสนำเสนอประเด็นความต้องการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งมีตัวแทนจากพรรคการเมืองที่ในอนาคตหลังการเลือกตั้งมั่นใจว่าจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการคือการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วและขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ รวมถึงการสานต่องบประมาณด้านการลงทุนของประเทศต้องทำได้ทันทีไม่ให้เกิดรอยต่อ โดยหอการค้าไทยได้มีการจัดทำเป็นสมุดปกขาวมอบให้กับพรรคการเมืองทุกพรรคเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศหลังจากนี้
ภาคธุรกิจมีความตั้งใจที่อยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่ที่มีเสถียรภาพ เดินหน้าสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนของสังคม ลดความขัดแย้ง สานต่อนโยบายต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศโดยเฉพาะกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างใกล้ชิด การสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และการเพิ่มบทบาททางการต่างประเทศกับนานาชาติให้มากขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาทของภาครัฐจาก Regulator สู่การเป็น Facilitator เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (Competitive) ภาคธุรกิจอยากให้รัฐบาลเดินหน้าสานต่อการดำเนินการเรื่อง Ease of Doing Business และ Ease of Investment อย่างเป็นรูปธรรม เพราะถือเป็นประตูด่านแรก ในการสร้างการดึงดูดการลงจากทั้งในและต่างประเทศ
โดยนำ Digital Transformation มาใช้เพื่อให้บริการภาครัฐมีความรวดเร็ว สะดวก และมีความโปร่งใส ขณะเดียวกันต้องเร่งผลักดัน FTA หรือข้อตกลงทางการค้าใหม่ ๆ เพื่อแสวงหาโอกาสด้านเศรษฐกิจให้กับประเท ยกระดับภาคการศึกษาเพื่อสร้างบุคลากรและแรงงานทักษะสูง ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด การจัดทำโยบายภาคการเกษตรที่ยึดตลาดนำการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และการส่งเสริมการแปรรูปรวมถึงการเร่งฟื้นฟู SMEs ทั่วประเทศ ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวก เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างเข้มแข็งต่อไปส่งต่อแนวทางความยั่งยืนสู่คนรุ่นใหม่ในอนาคต (Sustainable)
“วันนี้ประเด็นความยั่งยืนคงไม่ใช่ทางเลือกสำหรับประเทศไทย แต่จะเป็นทางรอดในการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ภาคธุรกิจจึงอยากให้พรรคการเมืองมีแนวทางที่ชัดเจน ที่จะนำประเทศไทยปรับตัวเข้าสู่แนวคิดความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งแนวทาง BCG, SDGs และ ESG ให้เกิดการรับรู้และปรับใช้ในทุกระดับของสังคม โดยภาคธุรกิจพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มต้นและสนับสนุนให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม”
โดยหอการค้าไทย จะมีการจัดทำเป็นสมุดปกขาว มอบแก่พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนในเวทีเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำเป็นมาตรการและนโยบายที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชนในอนาคตได้ซึ่งมีตัวแทนพรรคการเมือง ที่เข้าร่วมเวทีตอบข้อซักถาม มีตัวแทนจากพรรคก้าวไกล พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคเสรีรวมไทย