3 ตระกูลไทยติดโผร่ำรวยที่สุดในเอเชีย “อยู่วิทยา” มั่งคั่งเพิ่มมากที่สุด

เว็บไซต์ บลูมเบิร์ก เปิดเผยการจัดอันดับ “The 20 richest families in Asia” เมื่อ 15 มีนาคม 2566 รวบรวมรายชื่อ "ตระกูลมหาเศรษฐีในเอเชีย" ซึ่งร่ำรวยมาจากการทำธุรกิจยักษ์ใหญ่ ที่ทรงอิทธิพลในประเทศนั้นๆ และขยายอาณาจักรธุรกิจของพวกเขาออกไปนอกประเทศ จนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในจำนวนนี้มีครอบครัวมหาเศรษฐีไทยติดอันดับ 3 ตระกูลได้แก่ 

อันดับ 5  : เจียรวนนท์ (เจริญโภคภัณฑ์ กรุ๊ป)

ทรัพย์สิน 2.82 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 9.6 แสนล้านบาท

อันดับ 6 : อยู่วิทยา (ทีซีพี กรุ๊ป)

ทรัพย์สิน  2.74 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 9.33 แสนล้านบาท

อันดับ 20 : จิราธิวัฒน์ (เซ็นทรัล กรุ๊ป)

ทรัพย์สิน 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 4.7 แสนล้านบาท

“ตระกูลอยู่วิทยา” มีความมั่งคั่งเพิ่มมากที่สุด ราว 7,800 ล้านดอลลาร์  หรือ 2.7 แสนล้านบาท สูงสุดเมื่อเทียบกับตระกูลเศรษฐีเอเชียรายอื่น ผลมาจากการถือหุ้นใน เรดบูล (Redbull) ถึง 51%

ปีที่แล้วเรดบูลทำยอดขายที่ได้ "สูงสุดเป็นประวัติการณ์" ถึง 11,600 ล้านกระป๋อง ดันรายได้สูงขึ้น 24% เป็น 10,500 ล้านดอลลาร์ ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังสูงที่สุดในโลก 

ทั้งนี้เป็นอานิสงค์จากการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดทั่วโลก ผับบาร์กลับมาเปิดได้อีกครั้ง  มีการกลับมาจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งเทศกาลดนตรี การแข่งขันกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งเรดบูลเป็นผู้สนับสนุนหลัก

"เรดบูล (Red Bull) " ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท Red Bull GmbH มีฐานผลิตที่ประเทศออสเตรีย ตระกูลอยู่วิทยาถือหุ้น 51% ในชื่อ “เฉลิม อยู่วิทยา” ส่วนที่เหลืออีก 49% ถือหุ้นโดยพาร์ทเนอร์ฝั่งออสเตรีย “มาร์ก เมเทสซิทซ์” ทั้งสองล้วนเป็นทายาทสายตรงของผู้ร่วมบุกเบิกเรดบูล 

ทั้ง กระทิงแดง กับ เรดบูล  ก่อตั้งโดย “เฉลียว อยู่วิทยา” แต่ไม่เกี่ยวข้องกันในทางธุรกิจ โดย “เรดบูล” ก่อตั้งปี พ.ศ. 2527 เมื่อ “ดีทริช  เมเทสซิทซ์” มาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และบริหารงานดันเรดบูลสู่ตลาดโลก จนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก ปัจจุบันเน้นทำตลาดโซนยุโรป  ส่วน “กระทิงแดง” เน้นทำตลาดโซนไทย และอาเซียน ภายใต้การบริหารของ บริษัท “ทีซีพี กรุ๊ป” หัวเรือใหญ่คือ “สราวุฒิ อยู่วิทยา”

ส่วนแชมป์ครอบครัวที่รวยที่สุดของเอเชียปีนี้ คือ  “Ambanis”  ตระกูลใหญ่จากอินเดีย ด้วยทรัพย์สินอยู่ที่ 79,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.7 ล้านล้านบาท จากการทำธุรกิจปิโตรเคมี น้ำมันและก๊าซ โทรคมนาคม และการค้าปลีก ในนามบริษัท Reliance Industries  ซึ่งเป็นธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

อินเดียเป็นประเทศที่น่าจับตาที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย หลังเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากจำนวนมหาเศรษฐีที่เพิ่มขึ้น และมีบริษัทที่เป็นเทคสตาร์อัพก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์นจำนวนมาก

เมื่อ 4 ปีก่อน ที่ Bloomberg ได้จัดอันดับ พบว่ามี 3 ครอบครัวมหาเศรษฐีอินเดียติดอันดับ 3 ตระกูล ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมกัน 87,600 ล้านเดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.9 ล้านล้านบาท แต่ล่าสุดปี 2565 อินเดียมีติดอันดับเพิ่มเป็น 5 ตระกูล ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมกัน 168,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.74 ล้านล้านบาท

10 อันดับตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในเอเชีย

1) The Ambanis (อินเดีย) : 7.93 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 

2) The Hartonos (อินโดนีเซีย) : 3.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

3) The Kwoks (ฮ่องกง) :  3.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

4) The Mistrys (อินเดีย) : 2.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

5) The Chearavanonts  (ไทย) :  2.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

6) The Yoovidhyas (ไทย) : 2.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

7) The Chengs (ฮ่องกง) : 2.59 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

8) The Pao/Woos (ฮ่องกง) : 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

9) The Tsais (Taiwan) : 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

10)The Lees (เกาหลีใต้) : 1.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : Bloomberg