ส.อ.ท.ผนึกสกสว. ผุดกองทุนอินโนเวชั่นวันหนุนสตาร์ทอัพ - SMEs

01 พ.ค. 2566 | 01:49 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ค. 2566 | 01:49 น.

ส.อ.ท.ผนึกสกสว. ผุดกองทุนอินโนเวชั่นวันหนุนสตาร์ทอัพ - SMEs ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมให้เข้มแข็ง และผลักดันสตาร์ทอัพสู่การเป็นยูนิคอร์นในประเทศไทย

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดตั้งกองทุนอินโนเวชั่นวัน (INNOVATION ONE)

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ และมีฝีมือด้านเทคโนโลยีให้เติบโตได้ภายในประเทศ และสามารถก้าวไปแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ โดยจะเชื่อมต่อธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมเข้ากับ SMEs ภาคอุตสาหกรรมในเครือข่ายสมาชิกของเราที่ต้องการนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้เติบโตอย่างยั่งยืน 

ซึ่งสอดรับกับนโยบาย ONE FTI ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในวาระปี 2565-2567 นี้ โดยมุ่งชับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติงานที่มีเป้าหมายในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม

“ส.อ.ท. ซึ่งเป็นภาคเอกชนรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนภายใต้งบประมาณ 1 พันล้านบาทจาก สกสว. เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” 

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมา การนำงานวิจัยมายกระดับขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไทย และการสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยให้มีการเติบโต ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศนั้นยังมีอีกหลายข้อที่สามารถเพิ่มเติมให้ดีขึ้นได้ 

ดังนั้นโครงการกองทุนอินโนเวชั่นวัน จึงถูกออกแบบและจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้สตาร์ทอัพไทยได้มีโอกาสเข้าถึงตลาด โดยเฉพาะตลาดภาคอุตสาหกรรมเพื่อทำให้สตาร์ทอัพไทยสามารถเติบโตได้ และสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยผ่านเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพได้

“โครงการกองทุนอินโนเวชั่นวันเป็นโครงการกองทุนแนวคิดใหม่ที่ทางกระทรวงฯ เห็นว่าจะสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศได้ ผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชน โดย ส.อ.ท.” 

รองศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า คณะกรรมการคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) มอบอำนาจให้ สกสว. จัดสรรเงินให้ ส.อ.ท. ตามหนังสือแสดงเจตจำนงภายใต้กรอบวงเงินที่ กสว. อนุมัติ 1 พันล้านบาท และให้รายงานต่อ กสว.เพื่อรับทราบการจัดสรรเงินภายใต้โครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน”  โดยได้ออกแบบโมเดลการดำเนินงานเพื่อให้ภาคเอกชนเข้าร่วมทุนกับภาครัฐ ทั้งแผนการลงทุน แผนการดำเนินงานโครงการ การจัดเตรียมกรอบและแผนการเบิกจ่ายเงินเพื่อจับคู่กับกรอบวงเงินที่ภาคีภาคเอกชนแจ้งมา โดยโครงการฯ จะทำการจัดหา SMEs ที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพ”

“สกสว. เป็นหน่วยงานกลางของประเทศที่มีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศในทุกด้าน เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน ตามพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2562”                     
 

ดร.วิบูลย์ รักสาสน์เจริญผล รองเลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเสริมว่า โครงการกองทุนอินโนเวชั่นวัน ยึดหลักธรรมาภิบาลและประสิทธิภาพควบคู่กัน โดยโครงการฯ มุ่งหวังให้เกิดการสนับสนุนด้านการเงินให้กับสตาร์ทอัพและ SMEs ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นเป้าหมายไปที่การนำเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพมายกระดับภาคอุตสาหกรรม SMEs อย่างน้อย 5 โครงการในปี 2566 ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวของสตาร์ทอัพและ SMEs เข้าสู่การได้รับเงินสนับสนุนในรอบถัดไปอย่างน้อย 3 โครงการ และผลักดันโครงการ

ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมองค์รวม ตามแนวทาง BCG ที่ผสมผสานการพัฒนา 3 ด้านหลัก คือ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) รวมถึงการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ไปพร้อมกับการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (S-Curve) อย่างน้อย 2 โครงการ”

“โครงการกองทุนอินโนเวชั่นวัน จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจนวัตกรรม ส่งเสริมการเติบโตของสตาร์ทอัพไทย เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย พัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น ตลอดจนพัฒนานวัตกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ผ่านแนวคิดนวัตกรรมแบบเปิดในภาคเอกชน”