แม้ว่าจะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมืองเป็นระยะเวลา 10 ปี ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง และห้ามจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง สำหรับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” จากคดีเงินกู้ 191 ล้าน เมื่อต้นปี 2563
แต่ปัจจุบันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ คนนี้ยังมีบทบาท และเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาในฐานะผู้ช่วยหาเสียง พรรคก้าวไกล
ในช่วงของการปราศรัยใหญ่พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ขึ้นมาร่วมปราศรัยท่ามกลางกองเชียร์เสียงกระหึ่มอาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) บอก ที่ผ่านมาพรรคผ่านสิ่งต่าง ๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ทั้งในและนอกสภา
ไม่ว่าจะเป็นต่อการทุจริตคอร์รัปชัน อิทธิพลมืด ค้ายาเสพติด ตำรวจตั๋วช้าง และที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ “การผูกขาดในระบบเศรษฐกิจ” ซึ่งนายธนาธร บอกอย่างชัดเจนว่า เป็นต้นเหตุของความเหลื่อมล้ำของประเทศ
“เหตุผลที่เรากล้าเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพล กลุ่มทุนผูกขาด ก็เพราะพวกเขาไม่ใช่นายของเรา นายของเรามีคนเดียวนั่นก็คือพี่น้องประชาชนเท่านั้น” นั่นคือคำพูดที่นายธนาธรยืนยันออกมากลางเวทีปราศรัยและมีแต่เสียงปรบมือดังกึกก้อง
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เรื่อง “ทลายทุนผูกขาด” เป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงสำคัญของพรรคก้าวไกล โดยกำหนดว่า ทลายทุนผูกขาดถือเป็นเศรษฐกิจโตเพื่อทุกคน
พรรคก้าวไกล มีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ เช่น สุราก้าวหน้า เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร, เพิ่มการแข่งขันในธุรกิจการเงิน เพิ่มจำนวนใบอนุญาต Virtual Bank อย่างน้อย 3 เท่า, ปรับปรุงกฎหมายแข่งขันทางการค้า ทลายทุนผูกขาด รวมทั้ง เปิดตลาดซื้อ-ขายไฟฟ้าเสรี รัฐดูแลระบบสายส่ง และ ค่าไฟแฟร์ ถูกและเป็นธรรมสำหรับประชาชน หลังคาสร้างรายได้ เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ ประกันราคาซื้อพลังงานสะอาดสำหรับครัวเรือน
แต่อย่างไรก็ดี ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับบริษัทที่นายธนากร ถือหุ้นล่าสุด ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวข้องกับพลังงาน โดยเมื่อตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบบริการวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจร Creden Data จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลการถือหุ้นของนายธนาธร อย่างน้อย 7 บริษัท สรุปได้ดังนี้
1.บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นในบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า โดยนายธนาธรถือหุ้นเป็นอันดับที่ 19 ด้วยจำนวนหุ้น 263,200 หุ้น งบการเงินล่าสุด ปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 16,437 ล้านบาท รายได้รวม 4,089 ล้านบาท รายจ่ายรวม 499 ล้านบาท มีผลประกอบการเป็นกำไร 3,559 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังพบด้วยว่า บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ อย่างน้อย 20 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจด้านพลังงาน ดังนี้
2. บริษัท ทีที โซล่าร์ จำกัด
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นใน บริษัท ทีที โซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการขายไฟฟ้า โดยนายธนาธรถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 ด้วยจำนวนหุ้น 90,000 หุ้น ปี 2564 สินทรัพย์รวม 190 ล้านบาท รายได้รวม 15 ล้านบาท รายจ่ายรวม 13 ล้านบาท มีผลประกอบการเป็นกำไร 452,014 บาท
3. บริษัท ที เอส พาวเวอร์ เอ็นเนอจี จำกัด
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นใน บริษัท ที เอส พาวเวอร์ เอ็นเนอจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการขายไฟฟ้า โดยนายธนาธรถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 ด้วยจำนวนหุ้น 50,805 หุ้น งบการเงินล่าสุด ปี 2564 สินทรัพย์รวม 34 ล้านบาท รายได้รวม 10 ล้านบาท รายจ่ายรวม 4 ล้านบาท มีผลประกอบการเป็นกำไร 5 ล้านบาท
4. บริษัท กรีน ไลน์ เอ็นเนอจี จำกัด
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นใน บริษัท กรีน ไลน์ เอ็นเนอจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการขายไฟฟ้าจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ โดยนายธนาธรถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 ด้วยจำนวนหุ้น 33,597 หุ้น งบการเงินล่าสุด ปี 2564 สินทรัพย์รวม 20 ล้านบาท รายได้รวม 6 ล้านบาท รายจ่ายรวม 4 ล้านบาท มีผลประกอบการเป็นกำไร 1.9 ล้านบาท
5. บริษัท ที เอส ออโต้ เซลส์ จำกัด
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นใน บริษัท ที เอส ออโต้ เซลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน โดยนายธนาธรถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 ด้วยจำนวนหุ้น 70,200 หุ้น งบการเงินล่าสุด ปี 2559 สินทรัพย์รวม 280 ล้านบาท รายได้รวม 308 ล้านบาท รายจ่ายรวม 323 ล้านบาท มีผลประกอบการขาดทุน 21 ล้านบาท
6. บริษัท จึงพัฒนา โฮลดิ้ง จำกัด
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นใน บริษัท จึงพัฒนา โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก โดยนายธนาธรถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 ด้วยจำนวนหุ้น 68,400 หุ้น งบการเงินล่าสุด ปี 2564 สินทรัพย์รวม 2,000ล้านบาท รายได้รวม 24,365 บาท รายจ่ายรวม 27,314 บาท มีผลประกอบการขาดทุน 2,948 บาท
7. บริษัท ส้มจี๊ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นใน บริษัท ส้มจี๊ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการบริการด้านอาหารในภัตคาร/ร้านอาหาร โดยนายธนาธรถือหุ้นเป็นอันดับที่ 1 ด้วยจำนวนหุ้น 299,997 หุ้น งบการเงินล่าสุด ปี 2564 สินทรัพย์รวม 6 ล้านบาท รายได้รวม 2 ล้านบาท รายจ่ายรวม 10 ล้านบาท มีผลประกอบการขาดทุน 8 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังพบด้วยว่า บริษัท ส้มจี๊ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ได้เข้าไปถือหุ้นใน บริษัท เบดเดอลี่ จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ในทางการแพทย์ (ยกเว้นทางทันตกรรม) งบการเงินนำส่งปี 2565 สินทรัพย์รวม 5 ล้านบาท รายได้รวม 885,231 บาท รายจ่ายรวม 3 ล้านบาท มีผลประกอบการขาดทุน 2 ล้านบาท