สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 71.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 75.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 22,000 ราย สู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 254,000 ราย
เอดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์จากบริษัท OANDA กล่าวว่า "ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นข่าวดีในข่าวร้าย โดยนักลงทุนมองว่าข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งอาจจะผลักดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าและสร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน ขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้ตลาดกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน"
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 10.7%
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.68% แตะที่ระดับ 103.5793 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ