สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 71.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 76.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักมากกว่า 90% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1 ล้านบาร์เรล มากกว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล
มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับไตรมาส 3/2566 ลงสู่ระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 77.50 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับลดคาดการณ์ราคาในไตรมาส 4/2566 ลงเหลือ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล จาก 75 ดอลลาร์/บาร์เรล