พม. ยัน ผู้สูงอายุเดิมยังได้รับ "เบี้ยยังชีพ" หลังปรับหลักเกณฑ์ใหม่

14 ส.ค. 2566 | 14:05 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2566 | 14:08 น.

อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ยืนยัน "เบี้ยผู้สูงอายุ" กลุ่มเดิมยังได้รับเหมือนเดิม เตรียมหารือ มหาดไทย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังรัฐบาลปรับหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้สูงอายุ

จากกรณีกระทรวงมหาดไทยได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2566 นั้น

ล่าสุด นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึง ระเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าวซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2566

ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เนื่องจากมีการปรับปรุงในเรื่องคุณสมบัติผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ข้อ 6(4) เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ทั้งนี้ ระเบียบใหม่ได้กำหนดบทเฉพาะกาล ข้อ 17 วรรค 1 บรรดาผู้สูงอายุที่ได้ขึ้นทะเบียนและรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยู่ก่อนระเบียบนี้ใช้บังคับให้ยังมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นต่อไป และ ข้อ 18 ในระหว่างที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุ ยังมิได้มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ

ตามข้อ 6(4) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้คุณสมบัติผู้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติมไปพลางก่อน

นางสาวแรมรุ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเด็นของการปรับปรุงระเบียบดังกล่าว ซึ่งเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทยนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุที่รับเบี้ยยังชีพเดิม และยังคงสิทธิรับเบี้ยยังชีพจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกระทรวงมหาดไทยจะชี้แจงในรายละเอียดต่อไป

อย่างไรก็ตาม กระทรวง พม. จะหารือในเรื่องระเบียบดังกล่าว ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้สูงอายุเป็นสำคัญ

พม. ยัน ผู้สูงอายุเดิมยังได้รับ \"เบี้ยยังชีพ\" หลังปรับหลักเกณฑ์ใหม่