กรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนถึงร่างระเบียบและประกาศ กทม. ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บค่าธรรมเนียม “ค่าบำบัดน้ำเสีย" หลัง กทม. ได้มีข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ. 2547 เป็นเวลากว่า 19 ปีจนถึงปัจจุบัน
แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการออกระเบียบหรือประกาศกรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย จึงทำให้ยังไม่มีการเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำบัดน้ำเสีย ทำให้ในปัจจุบัน กทม. มีการใช้งบประมาณในการดำเนินการโรงบำบัดน้ำเสียไม่น้อยกว่าปีละ 600 ล้านบาท
ดังนั้น การเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียจะช่วยให้มีการลดรายจ่ายในการดำเนินการโรงบำบัดนำเสีย อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักการ Polluter Pay Principle หรือหลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการจัดการมลพิษของเมืองและลดปริมาณของมลพิษที่เกิดขึ้นในเมืองด้วย
ประเภทของแหล่งกำเนิดน้ำเสีย
การเก็บค่าธรรมเนียม “ค่าบำบัดน้ำเสีย” จากแหล่งกำเนิดน้ำเสีย มี 3 ประเภท ดังนี้
1. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 2 มีลักษณะ คือ
2. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 2 มีลักษณะ คือ
3. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 3 มีลักษณะ คือ
เริ่มเก็บ “ค่าบำบัดน้ำเสีย” 2 กลุ่ม
สาระสำคัญของร่างระเบียบและประกาศของกรุงเทพมหานครนี้ คือการเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียแก่ 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ได้แก่ แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 2 (ก) คือ หน่วยงานรัฐหรืออาคารที่ทำการของเอกชนหรือองค์กรระหว่างประเทศ และแหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 2 (จ) ประกอบด้วย สถานประกอบการ ที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี มีการใช้น้ำไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน
กลุ่มที่ 2 ได้แก่ แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 3 ประกอบด้วย โรงแรม โรงงาน และสถานประกอบการที่มีการใช้น้ำย้อนหลังเฉลี่ยมากกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตร
อัตราค่าธรรมเนียม “ค่าบำบัดน้ำเสีย”
สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียนั้น จะแบ่งตามประเภทแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ดังนี้
โดยคำนวณหาปริมาณน้ำเสียจาก 80% ของปริมาณน้ำประปาหรือน้ำจากแหล่งน้ำอื่น นอกจากนี้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียยังไม่ได้มีการจัดเก็บในทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร โดยจะมีการจัดเก็บเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ในระยะการให้บริการของโรงบำบัดน้ำเสียเท่านั้น
นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า กทม. ไม่ได้โยนภาระค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียแก่ประชาชน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนกรุงเทพมหานครทุกคนต่างร่วมรับภาระในการบำบัดน้ำเสียเท่าเทียมกัน ซึ่งหากค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียนี้สามารถจัดเก็บได้สำเร็จผู้ก่อให้เกิดน้ำเสียจะมีส่วนร่วมในการรับภาระในการบำบัดน้ำเสียมากยิ่งขึ้นนั้นเอง
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ไม่มีการบังคับจัดเก็บค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียแก่ภาคครัวเรือน จะมีเพียงแต่กรณีภาคครัวเรือนสมัครใจเชื่อมต่อท่อสู่โรงบำบัดน้ำเสียเท่านั้น
สำหรับร่างระเบียบกรุงเทพมหานครและร่างประกาศกรุงเทพมหานคร ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 ฉบับ ประกอบด้วย
1. ร่างระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการขอรับบริการบำบัดน้ำเสีย การระบายน้ำเสียลงสู่ระบบรวบรวมน้ำเสีย และการระงับการให้บริการบำบัดน้ำเสีย พ.ศ. ....
2. ร่างระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียสำหรับแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่มีระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียจนได้น้ำทิ้ง พ.ศ. ....
3. ร่างประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร
4. ร่างประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่ที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดน้ำเสียต้องชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย
5. ร่างประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง วิธีคำนวณปริมาณน้ำที่ใช้ในแหล่งกำเนิด น้ำเสียที่ไม่อาจใช้เครื่องอุปกรณ์วัดปริมาณน้ำที่ใช้ได้
6. ร่างประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง แนวทางการติดตั้งอุปกรณ์วัดปริมาณน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่ใช้น้ำประปา
7. ร่างประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดสถานที่รับชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร
สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติ่มสามารถติดตาม และร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างระเบียบและประกาศ กทม. ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 ฉบับ ได้ที่นี่