เงินดิจิทัล 10000 บาทยังคงเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องถึงความเหมาะสมในการดำเนินนโยบาย
โดยมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุน และเสียงที่คัดค้าน
ล่าสุดนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ระบุถึงการแจกเงินดิจิทัล 10000 บาท ว่า รัฐบาลไม่ได้พูดความจริง ตั้งแต่ไม่ตอบคำถามอดีต ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงอีกหลายหน่วยงาน และนักวิชาการมากมายที่รู้ทางเศรษฐกิจ ซึ่งลงชื่อคัดค้านด้วยเหตุผลทั้ง 7 ข้อ
ทั้งนี้ แม้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีประกาศยังเดินหน้าทำต่อไปโดยไม่ฟังเสียงค้านก็ตาม แต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) จะสามารถหยุดนโยบายนี้ได้ ดังนั้น การปลุกคนเป็นล้านให้ส่งเสียงสนับสนุนรัฐบาลย่อมไม่มีความหมายใด
"นายเศรษฐาปลุกประชาชนที่จะส่งเสียงสนับสนุนการแจกเงินดิจิทัล แต่องค์กรเหล่านี้ตั้งคณะกรรมการมาศึกษาย่อมใช้คนไม่กี่คนหรือมีแค่ 9 คนก็จะจัดการได้ นายเศราฐฐายังไม่เข็ดหลาบอีกหรือกับเรื่องเสียง สส. ดังนั้น การขอให้ประชาชนออกมาส่งเสียงคำรามใส่อีกฝ่ายหนึ่ง จึงไม่มีผลใดเลย"
นายจตุพร ระบุว่า ผู้ที่ออกมาคัดค้านเงินดิจิทัลนั้น ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย แต่ทุกคนห่วงใยประเทศชาติ ถ้านโยบายนี้ดีจริงควรเริ่มต้นที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มาถึง สส.และ สว. อีกทั้งไปยังข้าราชการทุกทบวงกรม ควรจ่ายเงินเดือนเป็นเงินดิจิทัลเสียก่อน เพื่อพิสูจน์ให้คนไทยได้รับรู้ว่า สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างไร้ข้อสงสัย หากเพื่อไทยต้องการแจกเงินดิจิทัลจริง ก็ไม่ควรทำบล็อกเชนใหม่เพราะที่มีอยู่ทั้งหมดในแต่ละหน่วยงานแล้ว จึงไม่ควรใช้เงินภาษีอากรของประชาชนมาจ่ายซ้ำทำใหม่ให้สิ้นเปลืองเงินอีก
ส่วนการขยายพื้นที่จากรัศมี 4 กม.หรือไม่ แล้วจะหมุนรอบอย่างไรนั้น เมื่อจ่ายเงินแล้วนำไปซื้อสินค้าได้รอบเดียวก็หมดแล้ว ไม่อาจหมุนอีกกี่รอบได้เลย นอกจากนี้ที่บอกว่า ครอบครัวสามารถนำเงินมาลงทุนตั้งตัวทางเศรษฐกิจ ต้องอธิอบายในโลกความเป็นจริงให้ได้ว่า จะตั้งตัวได้อย่างไรกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนที่ตั้งตัวได้คือบรรดาเจ้าสัวทั้งหลาย
นายจตุพร กล่าวว่า หากเกิดการแฮกบล็อกเชนแล้ว ใครจะต้องเกี่ยวข้องในการรับประกันความสี่ยงเช่นนี้ ตนจึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีเพื่อไทยเอาเงินส่วนตัวและทรัพย์สินทั้งหมดมาการันตีความผิดพลาด เพื่อไม่ต้องไปฟ้องร้องตามอายัดทรัพย์กันให้ยุ่งยากเสียเปล่า
"ถ้ามั่นใจจริง เริ่มต้นแจกเงินหมื่นกันเดือนหน้าเลยมั้ย 1 พ.ย.ก็รับเงินเดือนเป็นเงินดิจิทัลจะเป็นตระกูลไหนก็ได้ เพื่อพิสูจน์และเงินบาทจะได้หมดกันไป แต่การออกมาชี้แจงว่า ศึกษามาดี ก็รีบทำเลย ไม่ต้องไปปลุกประชาชนออกสนับสนุน แต่ต้องประกาศว่าเอาเงินมาจากไหน"
นายจตุพรกล่าวว่า ถ้า รมต.เพื่อไทยใช้เงินตัวเองไปแจกแล้ว คงไม่ใครคัดค้านแน่นอน แต่เอาเงินประชาชนมาแจก แล้วยังต้องแบกดอกเบี้ยอีก ดังนั้น ประชาชนย่อมรู้ว่า เงินมาแจกเป็นเงินกู้จากไหน ถ้าประเทศรีบเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ทำไมร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 เวลานี้ยังไม่ทำเลย
"จะเห็นว่าทุกอย่างไม่มีความพร้อมเลย แต่กำลังจะหาแพะ โดยปลุกประชาชนเพื่อให้รู้ว่า ทำไม่ได้เพราะมีคนคัดค้าน แค่คนขวางอย่างศาล รธน.และปปช. คุณปลุกคนทั้ง 56 ล้านเสียงมาสู้ให้ตาย ก็ไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น"