นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการสั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ติดตามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากการประกอบกิจการโรงงานที่เป็นปัญหายืดเยื้อยาวนานมากกว่า 20 ปีพื้นที่โรงงาน บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
ทั้งนี้ แม้ว่าจะสั่งการตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันยังคงมีกากอุตสาหกรรมและของเสียเคมีวัตถุตกค้างในพื้นที่ของบริษัทฯ ซึ่งกระทบกับประชาชนและชุมชนรอบโรงงานในภาคเกษตรกรรมและน้ำอุปโภค บริโภค
“กระทรวงอุตสาหกรรมจริงจังและตระหนักถึงปัญหาของประชาชนโดยรอบโรงงาน แลได้สั่งการ กรอ. ให้เร่งแก้ไขปัญหาจากกากอุตสาหกรรมที่เป็นมลพิษต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามขั้นตอนและเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นปัญหาเรื้อรังมานานกระทบภาคประชาชนโดยตรง"
อย่างไรก็ดี ยังได้มีการติดตามการดำเนินการของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับการอนุมัติ งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 59.8 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการจ้างเหมาบริการกำจัด/บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียเคมีวัตถุที่ตกค้างในพื้นที่ของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด
นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบพื้นที่ รวมถึงสุ่มเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่าง จำนวน 54 ตัวอย่าง ประกอบด้วยของเหลว 14 ตัวอย่าง และของแข็ง 40 ตัวอย่าง
อีกทั้งยังการให้ กรอ. ตรวจกำกับการรวบรวม ขนถ่าย ขนส่ง และบำบัด/กำจัดกากอุตสาหกรรมและของเสียเคมีวัตถุ จำนวน 13,439 ตัน ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ แล้วเสร็จตามสัญญา คือภายในวันที่ 29 มีนาคม 2567
นายศุภเวศ ทองประยูร ผู้อำนวยการสำนักน้ำบาดาล เขต 8 (ราชบุรี) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า แผนการฟื้นฟูเยียวยาการประปาและทรัพยากรน้ำนั้น ได้เร่งเตรียมแผนโครงการศึกษาฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาลที่ปนเปื้อนสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโรงงาน
และโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการของโรงงาน โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการครอบคลุมได้ในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 2 ของตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี